สำหรับพ่อค้าแม่ค้าที่ขายของออนไลน์ หนึ่งในปัจจัยสำคัญที่สร้างความประทับใจให้กับลูกค้า คือคุณภาพในการจัดส่งสินค้า นอกจากความรวดเร็วแล้ว การแพ็คสินค้าอย่างดีก็จะช่วยปกป้องสินค้าให้ถึงมือผู้รับในสภาพสมบูรณ์ วันนี้เรามีเทคนิคการแพ็คของออนไลน์แบบมืออาชีพมาฝากกัน โดยจะช่วยให้การจัดส่งสินค้าของคุณเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและสร้างความประทับใจตั้งแต่ลูกค้าได้รับสินค้าเลย
แพ็คสินค้า ต้องเตรียมอุปกรณ์อะไรบ้าง
ก่อนจะเริ่มแพ็คสินค้า สิ่งสำคัญที่พ่อค้าแม่ค้าต้องเตรียมให้พร้อม คืออุปกรณ์สำหรับแพ็คของ การมีอุปกรณ์ที่ครบครันจะช่วยให้ขั้นตอนการแพ็คสามารถทำได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ โดยอุปกรณ์ที่ควรมีประกอบด้วย
- สินค้าที่จะจัดส่ง ตรวจสอบความเรียบร้อยของสินค้าก่อนแพ็ค เพื่อให้มั่นใจว่าสินค้าอยู่ในสภาพสมบูรณ์
- กล่องพัสดุหรือซองพัสดุ มีหลายขนาดให้เลือกใช้ตามความเหมาะสมกับสินค้า ควรเตรียมทั้งกล่องและซองไว้ให้พร้อม
- วัสดุกันกระแทก เช่น แผ่นบับเบิ้ล กระดาษรังผึ้ง กระดาษฝอยหรือกระดาษหนังสือพิมพ์ สำหรับป้องกันสินค้าแตกหักหรือเสียหาย
- อุปกรณ์ปิดผนึก สก็อตเทปคุณภาพดี สำหรับปิดผนึกพัสดุให้แน่นหนา
- เครื่องมือและอุปกรณ์อื่น ๆ กรรไกร คัตเตอร์สำหรับตัดเทป
- สติ๊กเกอร์ Label สำหรับติดบริเวณด้านนอกกล่อง เช่น ระวังแตก ห้ามโยน ฯลฯ เพื่อป้องกันความเสียหายของสินค้าด้านใน
7 วิธีการแพ็คสินค้าให้ถึงมือลูกค้าอย่างปลอดภัย
การแพ็คสินค้าให้ปลอดภัยไม่ใช่เรื่องยาก แต่ต้องใส่ใจในทุกขั้นตอน เพื่อให้มั่นใจว่าสินค้าจะถึงมือลูกค้าในสภาพสมบูรณ์ มาดูวิธีแพ็คของออนไลน์ที่ถูกต้องกันว่าจะมีอะไรบ้าง ดังนี้
1. เลือกขนาดกล่องให้เหมาะสมกับสินค้า
ขั้นตอนแรกคือการเลือกบรรจุภัณฑ์หรือกล่องพัสดุให้เหมาะกับประเภทสินค้า เช่น เสื้อผ้าหรือสินค้าที่ทนต่อแรงกระแทกได้ดี สามารถใช้ซองพลาสติกได้ แต่สำหรับสินค้าที่แตกหักง่าย ก็จำเป็นต้องแพ็คสินค้าด้วยกล่องที่มีขนาดพอเหมาะ ไม่ใหญ่จนสินค้าขยับได้ และไม่เล็กเกินไปจนไม่มีพื้นที่ใส่วัสดุกันกระแทก
นอกจากนี้ คุณภาพและวัสดุของกล่องก็มีความสำคัญไม่แพ้กัน โดยเฉพาะความหนาของกล่องที่ต้องทนทานพอที่จะปกป้องสินค้าจากการโยนของพนักงานขนส่ง หรือแรงกดทับเมื่อถูกวางซ้อนกับกล่องอื่น ๆ ปัจจุบันมีนวัตกรรมการผลิตกล่องใหม่ๆ ที่ช่วยเพิ่มความแข็งแรงโดยไม่เพิ่มน้ำหนักมากนัก ทำให้สามารถปกป้องสินค้าได้ดียิ่งขึ้นตลอดการเดินทางไปถึงมือลูกค้า
2. เลือกกล่องที่ได้คุณภาพ
การเลือกใช้กล่องคุณภาพดีเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าในระยะยาว โดยเฉพาะกล่องลูกฟูกที่มีความหนาและแข็งแรงเป็นพิเศษ เพราะถูกออกแบบมาให้ทนทานต่อการใช้งาน ซึ่งสามารถปกป้องสินค้าด้านใน ลดแรงกระแทกและความเสียระหว่างการขนส่ง เช่น การโยนสินค้า สินค้ามีน้ำหนักที่วางทับกัน เป็นต้น อย่างไรก็ตาม กล่องที่มีคุณภาพก็จะช่วยลดความเสี่ยงที่สินค้าจะเสียหายระหว่างการขนส่งได้
3. ป้องกันสินค้าด้วยวัสดุกันกระแทก
การจัดส่งสินค้าให้ปลอดภัยต้องใส่ใจเรื่องการป้องกันการกระแทก โดยเฉพาะจุดเสี่ยงอย่างมุมกล่อง มุมหนังสือหรือขอบขวด วิธีแพ็คของที่ถูกต้อง คือการห่อหุ้มด้วยบับเบิ้ลให้พอดี ไม่บางเกินไปจนไม่สามารถกันกระแทกและไม่หนาจนทำให้กล่องผิดรูป หรือหากคุณต้องการรักษาสิ่งแวดล้อม สามารถเลือกใช้กระดาษรังผึ้งหรือกระดาษฝอยได้เช่นกัน แต่ก็ต้องยอมรับกับความเสี่ยงเรื่องต้นทุนที่สูงขึ้น เนื่องจากกระดาษรังผึ้งจะมีราคาค่อนข้างสูง เมื่อใช้แพ็กสินค้าร่วมกับกระดาษฝอย รวมทั้งอัตราการป้องกันสินค้าที่เสียหายจะลดลงสภาพสินค้าที่ถึงมือลูกค้าอาจจะได้รับความเสียหายได้
4. ลดช่องว่างภายในกล่อง
หลังจากวางสินค้าลงในกล่อง การจัดการกับช่องว่างที่เหลือก็มีความสำคัญเช่นเดียวกัน เพราะอาจทำให้สินค้าเคลื่อนที่และเสียหายระหว่างขนส่งได้ แพ็คสินค้าให้แน่นด้วยการเติมช่องว่างด้วยวัสดุกันกระแทก เช่น กระดาษหนังสือพิมพ์ บับเบิ้ลหรือกระดาษฝอย นอกจากจะช่วยล็อกสินค้าให้อยู่กับที่แล้ว ยังเพิ่มความแข็งแรงให้กับกล่องอีกด้วย แต่ถ้าต้องการเพิ่มความปลอดภัยให้กับสินค้ามากขึ้น การใช้ถุงลมหรือพลาสติกอัดอากาศที่มีขนาดใหญ่กว่าบับเบิ้ลทั่วไป ก็จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันสินค้าที่ดีกว่าวัสดุกันกระแทกแบบอื่น ๆ เพราะสามารถกระจายแรงกระแทกได้ดีกว่าและยังคงรูปร่างได้นานกว่าในระหว่างการขนส่ง
5. ปิดกล่องสินค้าให้แน่นหนาทุกมุม
เลือกใช้เทปกาวคุณภาพสูงที่มีความเหนียวและทนทาน ปิดให้ครบทุกด้านโดยเฉพาะด้านล่างของกล่อง สำหรับสินค้าที่มีน้ำหนักมาก ควรเพิ่มชั้นของเทปที่ปิดเพื่อป้องกันก้นกล่องฉีกขาด และหากเป็นสินค้าที่ต้องการการป้องกันพิเศษจากน้ำให้เพิ่มการซีลด้วยพลาสติกอีกชั้น ทั้งนี้แนะนำให้ปิดกล่องสินค้าด้วยเทคนิคตัว H หลังจากปิดกล่องตรงกลางของกล่อง ทั้งด้านบนและด้านล่าง ด้านซ้ายและขวา ซึ่งวิธีนี้ก็จะช่วยให้กล่องพัสดุแน่นหนาขึ้น และรักษาความสมบูรณ์ของกล่องให้ถึงมือลูกค้าได้อย่างปลอดภัย
6. ติดสติ๊กเกอร์เตือน เพื่อความปลอดภัยระหว่างการขนส่ง
เพิ่มความปลอดภัยในการแพ็คสินค้าด้วยการติดสติกเกอร์หรือสัญลักษณ์เตือนบนกล่อง เช่น “ระวังแตก” เพื่อหลีกเลี่ยงการโยนหรือวางของหนักทับ สัญลักษณ์เตือนเหล่านี้จะช่วยลดความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นระหว่างการขนส่งได้
7. ระบุชื่อและที่อยู่ของผู้รับให้ชัดเจน
การระบุข้อมูลผู้รับให้ชัดเจน โดยเฉพาะชื่อ ที่อยู่ รหัสไปรษณีย์และเบอร์โทรศัพท์ แนะนำให้พิมพ์ข้อมูลลงบนสติกเกอร์และติดให้เรียบร้อย โดยใบปะหน้าควรมีขนาดที่เหมาะสม ไม่เล็กหรือใหญ่จนเกินไป ทั้งนี้ การระบุข้อมูลที่ครบถ้วนเช่นนี้ จะช่วยให้การจัดส่งเป็นไปอย่างราบรื่นแน่นอน
สรุปบทความ
MyCloud Fulfillment เราแพ็คสินค้าอย่างมืออาชีพ ทุกขั้นตอนทำงานผ่านบาร์โค้ด เรียกตรวจสอบออเดอร์ได้ว่า มีสินค้าอะไรบ้าง จำนวนเท่าไหร่ หมดกังวลเรื่องได้สินค้าไม่ครบหรือสินค้าเกิน เพราะเราใส่ใจในทุกขั้นตอนของการแพ็คสินค้า ตั้งแต่ขนาดกล่องสินค้า วัสดุป้องกันการกระแทกไปจนถึงการระบุข้อมูลการจัดส่ง พร้อมระบบบันทึกการแพ็คทุกออเดอร์ผ่าน CCTV และจะส่งไปยังคำสั่งซื้อของลูกค้า ช่วยสร้างความประทับใจและความน่าเชื่อถือได้อย่างแน่นอน นอกจากนี้ยังช่วยให้ธุรกิจออนไลน์ของคุณเติบโตได้อย่างยั่งยืนอีกด้วย
สำหรับพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ที่ต้องการความสะดวกสบายในการจัดการสินค้าและการจัดส่ง MyCloud Fulfillment มีบริการ Order Fulfillment จัดการการขายและรายการสั่งซื้อ ให้สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพในระบบเดียว และบริการ Shipping Management ช่วยให้การจัดส่งสินค้าของคุณเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมระบบบริหารจัดการที่ทันสมัย ช่วยให้คุณประหยัดเวลาและต้นทุนในการดำเนินธุรกิจ ในขณะที่ลูกค้าของคุณได้รับสินค้าในสภาพสมบูรณ์และตรงเวลาอย่างแน่นอน