Knowledge Center

ขายดีไม่มีสะดุด! เปิด 10 เทคนิคการขาย ขายยังไงให้ปัง? 

ขายของอย่างไรให้ยอดขายปัง

เชื่อว่ากระแสในตลาดอีคอมเมิร์ซตอนนี้นอกจากการแข่งขันที่สูงขึ้นแล้ว ก็ยังทวีความรุนแรงมากขึ้นเช่นกัน ดังนั้น ร้านค้าออนไลน์ต่างต้องปรับตัวและหากลยุทธ์ใหม่ ๆ มาประยุกต์ใช้ เพื่อเพิ่มยอดขายและรักษาฐานลูกค้าเดิมไว้ด้วยเช่นกัน ทั้งนี้ทั้งนั้นจึงจำเป็นต้องมีการใช้เทคนิคการขายที่มีประสิทธิภาพ เพื่อเพิ่มยอดขายให้ดียิ่งขึ้นไป ไม่ว่าคุณจะเป็นผู้ค้าหน้าใหม่หรือมีประสบการณ์มานานแล้วก็ตาม การนำเทคนิคดี ๆ เหล่านี้ มาปรับใช้ให้เหมาะสมก็จะช่วยให้ธุรกิจของคุณมียอดขายที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง ในบทความนี้ เราจะมาเผย 10 เทคนิคที่จะช่วยให้ร้านออนไลน์ของคุณขายดีไม่มีสะดุด พร้อมวิธีประยุกต์ใช้ที่จะทำให้ยอดขายของคุณพุ่งทะยานอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน  

10 เทคนิคการขาย ทำอย่างไรให้มัดใจลูกค้า

การเพิ่มยอดขายให้ร้านค้าออนไลน์ไม่ใช่เรื่องยาก หากคุณรู้และเข้าใจเทคนิคการขายที่มีประสิทธิภาพ มาดูกัน 10 เทคนิคที่จะช่วยมัดใจลูกค้าและเพิ่มยอดขายให้ร้านของคุณ  

1. รู้จักลูกค้าเป็นอย่างดี

การเข้าใจลูกค้าคือกุญแจสำคัญของความสำเร็จในการขาย เทคนิคการขายที่มีประสิทธิภาพจะเริ่มต้นจากการทำความรู้จักกับกลุ่มเป้าหมายให้ลึกซึ้ง ศึกษาพฤติกรรม แพลตฟอร์มที่พวกเขาใช้งาน ความชอบและสิ่งที่พวกเขากำลังมองหา เพื่อให้คุณสามารถสื่อสารและโปรโมตสินค้าได้อย่างตรงจุด นอกจากนี้ การเข้าใจธรรมชาติของลูกค้าแต่ละประเภทก็สำคัญไม่แพ้กัน บางคนต้องการคำแนะนำจากผู้ขาย ในขณะที่บางคนชอบความเป็นส่วนตัวและต้องการเวลาในการตัดสินใจ การปรับเทคนิคเหล่านี้ให้เหมาะกับลูกค้าแต่ละรายจะช่วยสร้างความประทับใจและนำมาซึ่งการกลับมาซื้อซ้ำในระยะยาว  

2. สร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้า

เทคนิคการขายที่ยั่งยืนต้องให้ความสำคัญกับการสร้างความสัมพันธ์ระยะยาวกับลูกค้า (CRM) เป็นการมอบประสบการณ์ที่ดีเริ่มได้จากสิ่งเล็กๆ น้อยๆ เช่น การมอบส่วนลด ของแถมหรือสิทธิพิเศษให้กับลูกค้าทั้งเก่าและใหม่ แม้เป็นของฝากเล็ก ๆ ที่ราคาไม่สูงมาก แต่ก็สามารถสร้างความประทับใจและแสดงถึงความมีน้ำใจของคุณได้ การดูแลลูกค้าอย่างใส่ใจทำให้พวกเขารู้สึกพิเศษและมีแนวโน้มที่จะกลับมาซื้อซ้ำ เมื่อลูกค้าไว้วางใจและชื่นชอบคุณ ยอดขายก็จะเติบโตได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน การสร้างความสัมพันธ์ที่ดีจึงเป็นเทคนิคที่มีผลตอบแทนคุ้มค่าในระยะยาว 

CRM ช่วยรักษาความสัมพันธ์กับลูกค้าในระยะยาว

3. พร้อมช่วยเหลือลูกค้า

หากผู้ขายพร้อมให้ความช่วยเหลือ ลูกค้ามักประทับใจกับผู้ขายที่มีความกระตือรือร้นในการช่วยแก้ปัญหาและตอบสนองความต้องการ โดยการตอบคำถามอย่างรวดเร็วและให้ข้อมูลที่ถูกต้องครบถ้วนจะสร้างความเชื่อมั่นและความไว้วางใจ ช่วยให้ลูกค้ารู้สึกอุ่นใจว่ามีคนคอยดูแล ไม่ถูกทอดทิ้ง การแสดงความเอาใจใส่ตั้งแต่ก่อนการขาย ระหว่างการขาย ไปจนถึงหลังการขายเป็นเทคนิคการขายที่จะทำให้ลูกค้าประทับใจและกลับมาซื้อซ้ำอย่างต่อเนื่อง  

4. เป็นที่ปรึกษาที่ดีให้แก่ลูกค้า

เทคนิคการขายที่มีประสิทธิภาพอีกประการหนึ่ง คือการวางตัวเป็นที่ปรึกษาที่ดีให้กับลูกค้า แทนที่จะมุ่งเน้นการขายอย่างเดียว ผู้ขายควรให้ความรู้และคำแนะนำที่เป็นประโยชน์แก่ลูกค้า อธิบายข้อดีข้อเสียของสินค้าอย่างตรงไปตรงมา แนะนำสินค้าที่เหมาะสมกับความต้องการของลูกค้า และให้คำปรึกษาเมื่อลูกค้ามีคำถามต่าง ๆ ที่สงสัย ก็จะช่วยสร้างความสัมพันธ์ที่ดีระยะยาวและเพิ่มโอกาสในการขายสินค้าได้อย่างต่อเนื่องด้วย   

5. วางกลยุทธ์ทางการตลาด

หากอยากให้ธุรกิจประสบความสำเร็จ การวางกลยุทธ์ทางการตลาดก็มีความสำคัญเช่นกัน ปัจจุบัน Social Commerce กลายเป็นช่องทางสำคัญที่ผู้ขายออนไลน์ไม่ควรมองข้าม การใช้โซเชียลมีเดียเป็นช่องทางในการขายโดยตรง ผ่านฟีเจอร์อย่าง Facebook Shop, Instagram Shopping หรือ TikTok Shop ก็จะช่วยให้ลูกค้าสามารถเลือกซื้อสินค้าได้ทันทีโดยไม่ต้องออกจากแพลตฟอร์ม หรือแม้แต่การขายผ่านทางแชทข้อความ (Chat Commerce) เช่น LINE OA หรือ Facebook Messenger ก็จำเป็นต้องอาศัยการวางกลยุทธ์เพื่อปิดการขายเช่นกัน เพราะหากมีการพูดคุยแต่สุดท้ายแล้วลูกค้าไม่ยอมชำระเงินก็อาจจะทำให้ร้านค้าเสียเวลา และขายสินค้าไม่ได้อีกด้วย 

6. ไม่ยัดเหยียดหรือปิดการขายเร็วเกินไป

การขายที่ดีต้องไม่เร่งรัดหรือกดดันลูกค้ามากเกินไป อย่างการ Hard Sale หรือพยายามปิดการขายอย่างรวดเร็วเพียงเพื่อต้องการยอดขายนั้น อาจไปสร้างความอึดอัดและทำให้ลูกค้าไม่ประทับใจในบริการได้ ดังนั้น ผู้ขายควรเข้าใจจังหวะและความต้องการของลูกค้า บางครั้งการปล่อยให้ลูกค้าได้เวลาในการพิจารณาและตัดสินใจเป็นสิ่งสำคัญ หากลูกค้าสอบถามราคา ก็ควรตอบตามความเป็นจริง หรืออาจแนะนำโปรโมชั่นที่น่าสนใจเพิ่มเติม แต่ถ้าลูกค้ายังไม่ได้ถามอะไรก็ควรให้พวกเขาได้เลือกดูสินค้าก่อน หรือหากพวกเขาชวนคุยเรื่องอื่น ก็ไม่จำเป็นต้องวกกลับมาเรื่องสินค้าเสมอไป การขายแบบไม่กดดันจะสร้างบรรยากาศที่สบายใจและเพิ่มโอกาสในการกลับมาซื้อซ้ำในอนาคตได้อย่างแน่นอน   

การมีช่องทางการขายที่หลากหลายจะช่วยเพิ่มยอดขายได้

7. ช่องทางการขายที่หลากหลาย

เทคนิคการขายที่มีประสิทธิภาพในปัจจุบันนั้น คือการมีช่องทางการขายที่หลากหลาย เนื่องจากแต่ละแพลตฟอร์มก็จะมีกลุ่มเป้าหมายที่ต่างกัน ไม่ว่าจะเป็น Shopee, Lazada, TikTok Shop เป็นต้น ทั้งนี้ ถึงแม้การขายสินค้าหลากหลายแพลตฟอร์ม อาจจะทำให้การจัดการสต๊อกสินค้ามีปัญหาเกิดขึ้นได้ ไม่ว่าจะเป็น สต๊อกสินค้าไม่ตรงกัน การบริหารจัดการสินค้าเพื่อทำโปรโมชัน อย่างไรก็ตาม เพื่อให้การขายสินค้าออนไลน์ของคุณเป็นไปอย่างราบรื่น MyCloud ขอแนะนำโซลูชันให้คุณเชื่อมต่อทุกช่องทางการขายเข้าไว้ด้วยกันในระบบเดียว ซึ่งนั่นก็คือระบบที่เรียกว่า Omnichannel Management เพราะจะช่วยให้คุณสามารถจัดการยอดขายจากทุกช่องทางได้อย่างมีประสิทธิภาพ และอัปเดตสต๊อกสินค้าแบบเรียลไทม์เมื่อมีลูกค้าสั่งซื้อเข้ามาได้ทันที ทุก 5 นาที ระบบจะซิงค์ข้อมูลสินค้าและคำสั่งซื้อแบบเรียลไทม์ ลดการทำงานที่ซ้ำซ้อน ทำให้คุณไม่พลาดโอกาสในการขายและสามารถมอบประสบการณ์ที่ราบรื่นให้กับลูกค้า ช่วยเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงลูกค้าและสร้างยอดขายได้อย่างต่อเนื่อง 

8. มีช่องทางการชำระเงินที่หลากหลาย 

อีกหนึ่งเทคนิคการขายที่ไม่ควรมองข้าม คือการมีตัวเลือกการชำระเงินที่หลากหลายและสะดวกสบาย การชำระเงินที่ยุ่งยากอาจทำให้ลูกค้าไม่อยากทำรายการซื้อต่อได้ แม้ว่ามาร์เก็ตเพลสต่าง ๆ จะมีระบบชำระเงินที่สะดวกอยู่แล้ว แต่สำหรับร้านค้าไหนที่มีการขายสินค้าผ่านทางแชท ไม่ว่าจะเป็น Facebook, Instagram หรือ Line OA การพูดคุยเพื่อให้ข้อมูลสินค้าและการสรุปยอดคำสั่งซื้ออาจจะทำให้ลูกค้ากดชำระเงินไม่สะดวกเท่าไหร่ เพราะด้วยช่องทางการขายนี้ยังไม่มีระบบการชำระเงินที่ตอบโจทย์มากเท่าไหร่ อย่างไรก็ตาม MyCloud Fulfillment เราได้เข้าใจถึงปัญหาจากการขายในรูปแบบนี้จึงได้พัฒนาฟีเจอร์ Chat Bilty เป็นลิงก์การขายที่ช่วยสรุปยอดออเดอร์ และช่วยให้ลูกค้าปลายทางที่ซื้อสินค้ากดเข้าไปชำระเงินได้อย่างสะดวกในลิงก์เดียว ไม่เพียงแต่ง่ายต่อการชำระเงิน แต่ยังทำให้ร้านค้ายังได้มั่นใจได้อีกว่า ยอดเงินหรือสลิปโอนเงินที่ลูกค้าแนบมานั้น สามารถตรวจสอบได้ว่าเป็นสลิปจริงหรือปลอม เพราะระบบจะตรวจสอบจาก QR Code ที่อยู่บนสลิปที่ลูกค้าแนบมาได้ทันที อีกทั้งหากเป็นยอดโอนจริงระบบจะยืนยันยอดให้อัตโนมัติทันที และหลังจากนั้นระบบจะดึงออเดอร์ไปยังระบบคลังสินค้าของ MyCloud เพื่อทำการแพ็คและส่ง ร้านค้าก็ไม่ต้องคอยมาคีย์ออเดอร์เองย้อนหลัง ทำให้ออเดอร์ไม่ตกหล่น ส่วนลูกค้าก็ไม่ต้องกรอกข้อมูลหลายขั้นตอนให้ยุ่งยาก เพิ่มโอกาสในการปิดการขายได้แบบเรียลไทม์ พร้อมทั้งยังสามารถติดตามสถานะการชำระเงินได้อย่างง่ายดายภายในระบบเดียว 

9. มีระบบหลังบ้านที่ดี

ทั้งนี้การจะเพิ่มยอดขายให้สูงได้ ก็จำเป็นจะต้องมีระบบการจัดการหลังบ้านที่ดี อย่างระบบ OMS (Order Management System) ที่มีประสิทธิภาพช่วยให้คุณสามารถจัดการคำสั่งซื้อจากทุกช่องทางได้อย่างมีประสิทธิภาพ MyCloud เรามีโซลูชัน OMS ระบบจัดการออเดอร์และฟีเจอร์ที่ช่วยในการขายสินค้า ช่วยให้คุณสามารถจัดการสต๊อกสินค้าในแต่ละช่องทางการขาย พร้อมระบบ API เชื่อมต่อทุกช่องทางการขาย ดึงออเดอร์จากระบบหลังบ้านใน Marketplace ติดตามคำสั่งซื้อ หยิบ แพ็กและจัดส่งสินค้าให้ถึงมือลูกปลายทางราบรื่น โดยระบบจะอัปเดตสถานะสินค้าแบบเรียลไทม์ ทุก ๆ 5 นาที ช่วยลดความผิดพลาดในการขายสินค้าเกินสต๊อก ไม่ต้องกังวลว่าจะมีสินค้าเพียงพอหรือไม่ เพราะการมีระบบหลังบ้านที่ดีก็จะช่วยสร้างความมั่นใจให้ทั้งผู้ขายและลูกค้า ส่งผลให้ยอดขายเติบโตอย่างต่อเนื่องได้นั่นเอง 

ระบบหลังบ้านที่ดีช่วยเพิ่มยอดขายได้

10. มีบริการหลังการขายที่ดี

เทคนิคการขายที่ยั่งยืนต้องให้ความสำคัญกับการบริการหลังการขาย การดูแลลูกค้าไม่ควรจบลงหลังจากที่พวกเขาชำระเงินเรียบร้อยแล้ว การรับประกันสินค้าและการแก้ไขปัญหาอย่างรวดเร็วเป็นส่วนสำคัญที่จะสร้างความประทับใจให้กับลูกค้า คุณสามารถส่งข้อความขอบคุณ ให้คำแนะนำในการใช้งานสินค้าหรือแม้แต่การติดตามเพื่อให้แน่ใจว่าสินค้าถึงมือลูกค้าในสภาพสมบูรณ์ การบริการหลังการขายที่ดีไม่เพียงแต่สร้างความพึงพอใจ แต่ยังเพิ่มโอกาสในการบอกต่อและการกลับมาซื้อซ้ำอีกเช่นเดียวกัน  

สรุปบทความ

การอาศัยเทคนิคการขายที่มีประสิทธิภาพก็จะช่วยเพิ่มยอดขายให้กับร้านค้าออนไลน์ของคุณได้ ไม่ว่าจะเป็นการทำความเข้าใจลูกค้า การสร้างความสัมพันธ์ที่ดี วางกลยุทธ์ทางการตลาดที่เหมาะสม ไม่เร่งรัดการขาย พร้อมช่องทางการขายและชำระเงินที่หลากหลาย และที่สำคัญการมีระบบจัดการหลังบ้านที่ดี ไปจนถึงการให้บริการหลังการขายที่ประทับใจ ทั้งหมดล้วนเป็นองค์ประกอบที่จะทำให้ร้านค้าของคุณประสบความสำเร็จ การนำเทคนิคเหล่านี้ไปปรับใช้อย่างเหมาะสมกับธุรกิจของคุณก็จะช่วยให้คุณสามารถสร้างยอดขายที่เติบโตอย่างต่อเนื่องและยั่งยืน ไม่เพียงแค่ได้ลูกค้าใหม่ แต่ยังรักษาลูกค้าเก่าให้กลับมาซื้อซ้ำอีกด้วย ในท้ายที่สุดแล้ว เทคนิคการขายที่ดีไม่ได้มุ่งเน้นแค่ยอดขายในระยะสั้น แต่มุ่งสร้างความสัมพันธ์และประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้า เพื่อความสำเร็จที่ยั่งยืนในระยะยาว  

หากคุณกำลังมองหาตัวช่วยที่จะมาช่วยให้การขายของคุณนั้นเป็นไปได้อย่างมีประสิทธิภาพนั้น MyCloud Fulfillment สามารถช่วยแก้ปัญหานี้ได้อย่างตรงจุดและสามารถจัดการออเดอร์ให้จัดส่งภายใน 24 ชม. การันตีจัดส่งทัน 99.5%  ด้วยระบบจัดการออเดอร์ OMS (Order Management System) ที่ช่วยจัดการได้อย่างครอบคลุมตั้งแต่ลูกค้ากดสั่งซื้อสินค้าเข้าและขั้นตอนการจัดส่งสินค้าให้ถึงปลายทาง หมดกังวลเรื่องระบบหลังบ้าน มีเวลาไปพัฒนาการขายตาม 10 เทคนิคที่เรานำมาฝากกันในวันนี้ได้อย่างแน่นอน 

บทความที่เกี่ยวข้อง

อ่านเพิ่มเติม

ทำไมใช้ seller center แล้วต้องใช้บริการ MyCloudFulfillment?

ทำไมใช้ seller center แล้วต้องใช้ MyCloudFulfillment?                   ใช้งาน seller center ขายของบน Marketplace อย่าง Lazada และ Shopee ผู้ขายเคยประสบปัญหาแบบนี้กันไหมคะ? ต้องจัดการหน้าร้านค้า แชทลูกค้าก็ต้องตอบ คะแนนร้านค้ายิ่งต้องรักษา เพื่อโอกาสร่วมแคมเปญต่าง ๆ อีกทั้งเมื่อมีออเดอร์เข้ามามากขึ้น ก็ต้อง แพ็ค และส่งให้ทันระยะเวลา SLA อีก ทำทั้งหมดนี้ด้วยตัวเองไหวไหมคะ? หากไม่ไหว และกำลังมองหาตัวช่วย MyCloud คือผู้ให้บริการ Fulfillment ที่จะตอบทุกโจทย์ธุรกิจออนไลน์ของคุณค่ะ เพราะการขายของผ่านระบบ Seller Center ก็ต้องจัดการหลังบ้านอย่างเป็นระบบด้วยเช่นกัน เรามาทำความรู้จักบริการ Fulfillment ที่เกิดมาเพื่อช่วยหลังบ้านธุรกิจ E-Commerce อย่างมืออาชีพโดยเฉพาะผู้ขายที่ใช้งาน seller center ผ่าน Lazada หรือ […]

เจาะลึกโมเดลธุรกิจการเป็นตัวแทนจำหน่าย ไม่สต๊อกสินค้า (Dropship) คืออะไร  

ปัจจุบันใคร ๆ ก็ยึดอาชีพการขายของออนไลน์เป็นหลักกันทั้งนั้น เพราะสามารถทำได้ค่อนข้างง่าย โดยเฉพาะ รูปแบบการทำธุรกิจแบบเป็นตัวแทนจําหน่าย ไม่สต๊อกสินค้า หรือที่รู้จักกันในชื่อ Dropship ที่กำลังได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย เพราะเป็นโมเดลธุรกิจที่เปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการรายย่อยสามารถเริ่มต้นธุรกิจได้โดยไม่ต้องลงทุนสูง ไม่ต้องกังวลเรื่องการจัดการสินค้าคงคลังและมีความยืดหยุ่นสูง แต่ถึงแม้จะสามารถทำได้ง่าย แต่ถ้าขาดระบบการจัดการหลังบ้านที่ดีก็อาจจะทำให้การขายนั้นยากขึ้นได้ ในวันนี้ MyCloud จะพาไปทำความรู้จักกับการเป็นตัวแทนจําหน่ายแบบไม่สต๊อกสินค้า ข้อดี-ข้อเสีย และวิธีการบริหารจัดการระบบตัวแทนจำหน่ายให้มีประสิทธิภาพกัน   ตัวแทนจำหน่าย ไม่สต๊อกสินค้า คืออะไร ตัวแทนจำหน่าย ไม่สต๊อกสินค้าหรือ Dropship เป็นรูปแบบธุรกิจที่ตัวแทนจำหน่ายไม่จำเป็นต้องซื้อสินค้ามาเก็บไว้เองล่วงหน้า ไม่ต้องลงทุนในการสต๊อกสินค้าและไม่ต้องจัดส่งสินค้าเอง ซึ่งหน้าที่หลัก ๆ ตัวแทนจำหน่ายนั้น คือการนำข้อมูลสินค้า รูปภาพและรายละเอียดต่าง ๆ ไปทำการตลาดและประชาสัมพันธ์ผ่านช่องทางออนไลน์เพื่อหาลูกค้าให้กับร้านค้า เมื่อมีลูกค้าสนใจและตกลงซื้อสินค้า ตัวแทนจำหน่ายจะแจ้งคำสั่งซื้อไปยังเจ้าของสินค้า จากนั้นเจ้าของสินค้าจะเป็นผู้จัดส่งสินค้าจากคลังไปยังลูกค้าโดยตรง การเปิดขายของออนไลน์ด้วยรูปแบบนี้ ช่วยให้ผู้ที่อยากเริ่มต้นธุรกิจแต่มีทุนน้อย หรือผู้ที่ไม่ต้องการรับภาระในการจัดการสินค้าคงคลัง สามารถเริ่มต้นธุรกิจได้ง่าย เพียงแค่มีทักษะด้านการตลาดและการขายเพื่อนำเสนอสินค้าให้ถึงกลุ่มลูกค้าเป้าหมายได้ เท่านี้ก็สามารถหารายได้จากช่องทางนี้ได้แล้ว    ข้อดีของการเป็นตัวแทนจำหน่าย ไม่สต๊อกสินค้า  การเป็นตัวแทนจำหน่ายแบบไม่สต๊อกสินค้ามีข้อดีมากมายทั้งสำหรับตัวแทนจำหน่ายเองและเจ้าของสินค้า มาดูกันว่ามีข้อดีอะไรบ้าง    ขายสินค้าได้หลากหลายอย่างพร้อมกัน สำหรับเจ้าของแบรนด์ การกระจายสินค้าให้หลากหลายและตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมายที่แตกต่างกัน ถือเป็นกลยุทธ์สำคัญในการขยายฐานลูกค้าและเพิ่มรายได้ การมีสินค้าเพียงประเภทเดียวอาจไม่เพียงพอในยุคที่พฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงเร็ว ดังนั้น การเพิ่มไลน์ผลิตภัณฑ์ใหม่หรือเปิดรับตัวแทนจำหน่ายแบบไม่สต๊อกสินค้า (Dropship) […]

ทำไมใช้ seller center แล้วต้องใช้บริการ MyCloudFulfillment?

ทำไมใช้ seller center แล้วต้องใช้ MyCloudFulfillment?                   ใช้งาน seller center ขายของบน Marketplace อย่าง Lazada และ Shopee ผู้ขายเคยประสบปัญหาแบบนี้กันไหมคะ? ต้องจัดการหน้าร้านค้า แชทลูกค้าก็ต้องตอบ คะแนนร้านค้ายิ่งต้องรักษา เพื่อโอกาสร่วมแคมเปญต่าง ๆ อีกทั้งเมื่อมีออเดอร์เข้ามามากขึ้น ก็ต้อง แพ็ค และส่งให้ทันระยะเวลา SLA อีก ทำทั้งหมดนี้ด้วยตัวเองไหวไหมคะ? หากไม่ไหว และกำลังมองหาตัวช่วย MyCloud คือผู้ให้บริการ Fulfillment ที่จะตอบทุกโจทย์ธุรกิจออนไลน์ของคุณค่ะ เพราะการขายของผ่านระบบ Seller Center ก็ต้องจัดการหลังบ้านอย่างเป็นระบบด้วยเช่นกัน เรามาทำความรู้จักบริการ Fulfillment ที่เกิดมาเพื่อช่วยหลังบ้านธุรกิจ E-Commerce อย่างมืออาชีพโดยเฉพาะผู้ขายที่ใช้งาน seller center ผ่าน Lazada หรือ […]

เจาะลึกโมเดลธุรกิจการเป็นตัวแทนจำหน่าย ไม่สต๊อกสินค้า (Dropship) คืออะไร  

ปัจจุบันใคร ๆ ก็ยึดอาชีพการขายของออนไลน์เป็นหลักกันทั้งนั้น เพราะสามารถทำได้ค่อนข้างง่าย โดยเฉพาะ รูปแบบการทำธุรกิจแบบเป็นตัวแทนจําหน่าย ไม่สต๊อกสินค้า หรือที่รู้จักกันในชื่อ Dropship ที่กำลังได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย เพราะเป็นโมเดลธุรกิจที่เปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการรายย่อยสามารถเริ่มต้นธุรกิจได้โดยไม่ต้องลงทุนสูง ไม่ต้องกังวลเรื่องการจัดการสินค้าคงคลังและมีความยืดหยุ่นสูง แต่ถึงแม้จะสามารถทำได้ง่าย แต่ถ้าขาดระบบการจัดการหลังบ้านที่ดีก็อาจจะทำให้การขายนั้นยากขึ้นได้ ในวันนี้ MyCloud จะพาไปทำความรู้จักกับการเป็นตัวแทนจําหน่ายแบบไม่สต๊อกสินค้า ข้อดี-ข้อเสีย และวิธีการบริหารจัดการระบบตัวแทนจำหน่ายให้มีประสิทธิภาพกัน   ตัวแทนจำหน่าย ไม่สต๊อกสินค้า คืออะไร ตัวแทนจำหน่าย ไม่สต๊อกสินค้าหรือ Dropship เป็นรูปแบบธุรกิจที่ตัวแทนจำหน่ายไม่จำเป็นต้องซื้อสินค้ามาเก็บไว้เองล่วงหน้า ไม่ต้องลงทุนในการสต๊อกสินค้าและไม่ต้องจัดส่งสินค้าเอง ซึ่งหน้าที่หลัก ๆ ตัวแทนจำหน่ายนั้น คือการนำข้อมูลสินค้า รูปภาพและรายละเอียดต่าง ๆ ไปทำการตลาดและประชาสัมพันธ์ผ่านช่องทางออนไลน์เพื่อหาลูกค้าให้กับร้านค้า เมื่อมีลูกค้าสนใจและตกลงซื้อสินค้า ตัวแทนจำหน่ายจะแจ้งคำสั่งซื้อไปยังเจ้าของสินค้า จากนั้นเจ้าของสินค้าจะเป็นผู้จัดส่งสินค้าจากคลังไปยังลูกค้าโดยตรง การเปิดขายของออนไลน์ด้วยรูปแบบนี้ ช่วยให้ผู้ที่อยากเริ่มต้นธุรกิจแต่มีทุนน้อย หรือผู้ที่ไม่ต้องการรับภาระในการจัดการสินค้าคงคลัง สามารถเริ่มต้นธุรกิจได้ง่าย เพียงแค่มีทักษะด้านการตลาดและการขายเพื่อนำเสนอสินค้าให้ถึงกลุ่มลูกค้าเป้าหมายได้ เท่านี้ก็สามารถหารายได้จากช่องทางนี้ได้แล้ว    ข้อดีของการเป็นตัวแทนจำหน่าย ไม่สต๊อกสินค้า  การเป็นตัวแทนจำหน่ายแบบไม่สต๊อกสินค้ามีข้อดีมากมายทั้งสำหรับตัวแทนจำหน่ายเองและเจ้าของสินค้า มาดูกันว่ามีข้อดีอะไรบ้าง    ขายสินค้าได้หลากหลายอย่างพร้อมกัน สำหรับเจ้าของแบรนด์ การกระจายสินค้าให้หลากหลายและตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมายที่แตกต่างกัน ถือเป็นกลยุทธ์สำคัญในการขยายฐานลูกค้าและเพิ่มรายได้ การมีสินค้าเพียงประเภทเดียวอาจไม่เพียงพอในยุคที่พฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงเร็ว ดังนั้น การเพิ่มไลน์ผลิตภัณฑ์ใหม่หรือเปิดรับตัวแทนจำหน่ายแบบไม่สต๊อกสินค้า (Dropship) […]