Knowledge Center

รวมบริษัทขนส่ง มีเจ้าไหนตอบโจทย์ธุรกิจคุณบ้างมาดูกัน

รวมบริษัทขนส่ง มีเจ้าไหนตอบโจทย์ธุรกิจคุณบ้างมาดูกัน

           เมื่อตลาด E-Commerce เติบโตขึ้น ธุรกิจที่เกี่ยวข้องก็ขยายตามไปด้วย หนึ่งในนั้นคือ ธุรกิจการขนส่ง (Logistic) ที่เรียกได้ว่าเป็นธุรกิจที่ฆ่าไม่ตาย อยู่ในทุกยุคทุกสมัย ยิ่งโลกพัฒนาไปไกลเท่าไร ระบบขนส่งก็จะเติบโตไปด้วยเท่านั้นเลยก็ว่าได้

           ปัจจุบันบริการขนส่งสินค้า-พัสดุของไทยมีการแข่งขันที่สูงมาก ทั้งเจ้าใหญ่ ๆ ที่เราคุ้นหน้าคุ้นตากัน หรือน้องใหม่ที่พึ่งเข้ามาแต่บริการประทับใจไม่แพ้กัน ทำเอาหลาย ๆ คนอดสงสัยไม่ได้ว่า จริง ๆ แล้ว แต่ละบริษัท มีข้อดี หรือจุดเด่นตรงไหนบ้าง เพราะบางคนอาจจะใช้ความเคยชิน เคยใช้เจ้านี้แล้วก็ใช้ตลอด วันนี้ผมมีสรุปคร่าว ๆ ของบริษัทขนส่งมาให้ลองอ่านกันดูว่าเจ้าไหนคุ้มค่า หรือตอบโจทย์ธุรกิจคุณมากที่สุด เผื่อจะเลือกใช้ได้หลากหลายขึ้นครับ มาเริ่มกันที่ 

       ผู้ให้บริการที่มีจุดให้บริการมากมาย ช่องทางการฝากพัสดุที่หลากหลาย สะดวกสบายต่อผู้ส่ง 

1. ไปรษณีย์ไทย หากพูดถึงการขนส่งพัสดุ จะไม่กล่าวถึง “ไปรษณีย์ไทย” ไม่ได้เลยครับ เพราะเป็นผู้ให้บริการรายใหญ่ที่ครองใจใครหลาย ๆ คน ไปรษณีย์ไทย เป็นหน่วยงานรัฐวิสาหกิจที่เปิดให้บริการในทุกจังหวัด นอกจากความน่าเชื่อถือที่เปิดให้บริการมานานแล้วยังมีการปรับปรุงการให้บริการอย่างสม่ำเสมอ ยกตัวอย่างเช่น ระบบ Prompt Post ที่ช่วยจ่าหน้าผู้รับสินค้าสำหรับติดบนกล่องไปรษณีย์ และคิดราคาค่าฝากส่งให้เสร็จสรรพ ซึ่งสะดวกสบายต่อผู้ส่งอย่างมาก อีกทั้งค่าบริการก็คิดจากน้ำหนักจริงของพัสดุ ไม่คิดค่า Dimension อีกด้วยครับ

2. SCG Express เน้นการให้บริการขนส่งพัสดุย่อยแบบเร่งด่วน ทั้งแบบ B2B, B2C และ C2C และมีบริการพร้อมรับพัสดุถึงที่ ซึ่งตอนนี้ทาง SCG ก็มีบริการใหม่สำหรับการขนส่งสินค้าแบบแช่แข็ง ไมว่าจะเป็น อาหาร ผลไม้ ของสดต่าง ๆ ที่เรียกว่า Cool TA-Q-BIN ที่ควบคุมให้พัสดุอยู่ในอุณหภูมิที่เหมาะสมได้ตั้งแต่ต้นทางจนถึงปลายทางครับ

3. Speed-D สามารถฝากส่งพัสดุได้ตาม 7-11 ที่มีสาขามากกว่า 12,000 สาขาทั่วประเทศ ซึ่งเรียกได้ว่าสะดวกสบายมากสำหรับพ่อค้าแม่ค้า หรือผู้ที่ต้องการส่งของด่วน หรือ ไม่มีเวลาไปส่งในเวลาครับ เพราะเขาเปิดบริการตลอด 24 ชม.

4. Nim Express มีจุดให้บริการมากกว่า 2,000 แห่งทั่วประเทศ มีบริการเก็บเงินปลายทาง และบริการรับสินค้าจากมือผู้ส่ง และส่งสินค้าให้ถึงมือผู้รับเลยด้วย

5. Kerry มีจุดให้บริการกว่า 5,500 แห่งทั่วประเทศไทย ทั้งจุดให้บริการตามสถานีรถไฟฟ้า BTS และล็อคเกอร์ตามสำนักงาน การจัดส่งรวดเร็ว เหมาะสำหรับธุรกิจ E-Commerce

       ผู้ให้บริการที่มี จุดเด่นเน้นส่งไวภายในวันเดียว(ภายใน 1-2 ชั่วโมง) ไม่ว่าจะเป็นเอกสาร จดหมายหรือสิ่งของที่ต้องการใช้แบบด่วนจี๋ ก็เรียกใช้บริการพวกเค้าเหล่านี้ได้เลยครับ

1. LALAMOVE พร้อมส่งรวดเร็วภายใน 3 ชั่วโมง ให้บริการทุกวัน ตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมมีบริการเก็บเงินปลายทาง สามารถใช้บริการผ่านทางแอปพลิเคชั่นได้ทันที มีรถให้เลือกหลายประเภท ทั้งรถมอเตอร์ไซค์ อีโคคาร์ 5 ประตู รถปิคอัพ รถกระบะมีตู้และยังมีการบริการรับและจัดส่งของ เช่น อาหาร พัสดุ เอกสาร เป็นต้น

2. LINEMAN รับส่งพัสดุถึงบ้าน พร้อมจัดส่งทั่วประเทศ บริการครบวงจรทั้งส่งเอกสารแบบแมสเซนเจอร์ด่วน, ส่งพัสดุ, สั่งอาหาร หรือแม้แต่เรียกบริการซื้อของให้ ใช้บริการผ่านแอปพลิเคชั่น พร้อมมีบริการแจ้งเตือนในไลน์ของผู้ส่งและผู้รับ

3. Deliveree เรียกรถผ่านแอพพลิเคชั่นได้ตลอด 24 ชม. มีรถขนของให้เลือกทั้งหมด 5 ประเภท ได้แก่ มอเตอร์ไซค์ อีโคคาร์ รถปิคอัพ รถกระบะมีตู้ และรถ 6 ล้อ มอเตอร์ไซค์เข้ารับของภายใน 45 นาที และรถ 4 ล้อภายใน 1 ชั่วโมง นอกจากนี้ยังให้บริการขนส่งแบบเหมาจ่ายราคาเดียวอีกด้วย

4. Grab Express บริการส่งด่วน มีทั้งรถจักรยานยนต์ รถยนต์ และรถกระบะ สามารถเรียกหลาย ๆ คันพร้อมกัน สูงสุดถึง 10 คัน พร้อมติดตามสถานะ Real-time ตรวจสอบได้ตลอดเวลา ใช้บริการผ่านแอพพลิเคชั่น เมื่อกดจองล่วงหน้ารถจะไปให้บริการในเวลาเพียง 10-15 นาที

       ผู้ให้บริการส่งที่รวดเร็วทันใจ เน้นการให้บริการส่งพัสดุและเอกสาร ในแหล่งธุรกิจกรุงเทพและปริมลฑล 

1. Skootar จุดเด่นคือสามารถใช้บริการผ่านแอพลิเคชั่น และจัดส่งโดยรถจักรยานยนต์ เน้นการส่งแบบเมสเซนเจอร์ไม่ว่าจะเป็น เอกสาร วางบิล เก็บเงิน หรือพัสดุขนาดเล็กที่ต้องการให้ถึงที่หมายเร็วเป็นพิเศษ

2. Ninja van บริการส่งพัสดุสิ่งของหรือเอกสารต่างๆ ในรูปแบบของการรับของจากผู้ส่งและส่งให้ถึงมือผู้รับ ซึ่งสามารถใช้บริการผ่านทางแอพลิเคชั่นได้ และกำลังจะขยายสาขาให้ครอบคลุมกว้างขึ้นครับ

3. Alpha เน้นไปทางการรับของจากมือผู้ส่งและนำส่งให้ถึงมือผู้รับโดยการสั่งงานผ่านทางแอปพลิเคชั่น Alpha Sender ซึ่งสะดวกมากทีเดียว

       ผู้ให้บริการบริการขนส่งสินค้าที่บริการทั้งในและต่างประเทศ แต่จะเน้นการส่งไปยังต่างประเทศครับ 

1. DHL มีการขนส่งหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นการส่งเอกสาร จดหมาย หรือตู้คอนเทนเนอร์ทั้งในประเทศและต่างประเทศ เรียกได้ว่าครบคลอบคลุมผู้ประกอบการทั้งรายเล็ก รายใหญ่

2. TNT มีการรับสินค้าถึงหน้าบ้าน และสามารถส่งพัสดุที่มีน้ำหนักได้ถึง 50 กก. ในราคาพิเศษ มีการจัดส่งทั้งรูปแบบด่วนพิเศษและแบบทั่วไปราคาประหยัด แต่จะเน้นไปที่การขนส่งพัสดุระหว่างประเทศผ่านทางเครื่องบิน

3. UPS ที่มีนโยบายเชื่อมโยงการค้าทั่วโลกได้รวดเร็วและมีประสิทธิภาพ สามารถขนส่งต่างประเทศ บริการแตกต่างด้วยการขยายเวลาเข้ารับพัสดุเพิ่มสูงสุด 7 ชั่วโมงสำหรับการส่งสินค้าสู่จีน ญี่ปุ่น อินเดีย ยุโรป และสหรัฐฯ รวมถึงจัดส่งพัสดุถึงผู้รับเร็วขึ้นภายใน 1 วัน สำหรับการส่งออกสู่ปลายทางในเอเชีย ยุโรป และสหรัฐฯ

4. CJ logistic มีการเข้ารับสินค้าถึงหน้าบ้าน ที่พร้อมส่งด่วน มีบริการส่งไปยังต่างประเทศทั้งทางอากาศ ทางเรือ และทางรถ ทั้งภายในประเทศและต่างประเทศ

5. FedEx Express สามารถส่งสินค้าไปยังประเทศสหรัฐอเมริกา และมากกว่า 220 ประเทศทั่วโลก โดยมีการขนส่งทั้งภาคพื้นดิน และทางอากาศ

       ผู้ให้บริการที่พึ่งเปิดตัวได้ไม่นาน แต่บริการไม่แพ้บริษัทชื่อดังเลยครับ

1. Flash Express หากกดจองส่งพัสดุผ่านแอพพลิเคชั่น จัดส่งพัสดุให้ฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย เปิดบริการจัดส่งทุกวัน ไม่เว้นวันหยุดราชการ สามารถชำระเงินค่าบริการผ่าน Flash E-COD ซึ่งลูกค้าสามารถสแกน QR ในการชำระสินค้าได้

2. Best Express ถึงแม้ว่าจะเป็นน้องใหม่ในไทย แต่มีประสบการณ์การส่งยาวนานในประเทศจีน และเป็นหนึ่งในบริษัทของเครืออาลีบาบา เพื่อบริการธุรกิจ E-Commerce ทั่วไทยครับ

3. J&T Express มีสาขาใน 928 อำเภอทั่วไทยเปิดให้บริการไม่มีวันหยุด วันจันทร์-อาทิตย์ รวมถึงวันนักขัตฤกษ์ สามารถใช้บริการได้ง่าย ๆ ผ่าน 3 ช่องทางคือ เว็บไซต์ คอลเซ็นเตอร์ และแอพพลิเคชั่น

4. Inter Express บริการ Next Day ส่งถึงปลายทางเพียงวันเดียว พร้อมให้บริการขนส่งแบบ B2B ทั่วประเทศ และมีจุดเด่นคือสามารถส่งสินค้าแบบควบคุมอุณหภูมิได้ทั้งแช่เย็น (0-8 องศา) และแช่แข็ง (ต่ำกว่า -15 องศา) ถือว่าตอบโจทย์ธุรกิจประเภทอาหาร ของสด ยาและเวชภัณฑ์ เป็นต้นครับ

          เมื่อโจทย์ในการขายของออนไลน์มีมากขึ้น MyCloudFulfillment จึงมาเพื่อตอบโจทย์เหล่านั้นให้กับคุณครับ เพราะเรามี Solution พิเศษนอกเหนือจากการให้บริการ คลังสินค้าออนไลน์ เรามีบริการ Fulfillment ไม่ว่าจะเป็นการเก็บ เเพ็ค และจัดหาช่องทางการจัดส่งสินค้าที่หลากหลาย รวมถึงการจัดส่งแบบเติมของตามหน้าร้าน เราหาการจัดส่งที่เหมาะสมกับคุณที่สุด เพื่อให้คุณประหยัดและคุ้มค่าที่สุดครับ

สนใจศึกษาและลงทะเบียนได้ที่ www.mycloudfulfillment.com
หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
โทร: 092-472-7742,098-278-6500, 02-138-9920
อีเมล: [email protected]
line: @mycloudgroup

บทความที่เกี่ยวข้อง

อ่านเพิ่มเติม

Temu ศึกครั้งใหญ่ของ SMEs ไทย“จะรับมือยังไง ไม่ให้เจ๊ง!”

Temu (เทมู) แพลตฟอร์มขายสินค้าออนไลน์จากจีน ที่กำลังโด่งดังอยู่ตอนนี้ ซึ่งมีบริษัทแม่อย่าง Pinduoduo (พินตั๋วตั๋ว) อีคอมเมิร์ชเจ้าดังที่ประสบความสำเร็จในตลาดออนไลน์จีนมาแล้วก่อนหน้านี้ และมีผู้ก่อตั้งคนเดียวกัน ก็คือ Colin Huang หรือหวงเจิง ทั้ง 2 แฟลตฟอร์มนี้เป็นบริษัทค้าปลีก ในเครือ PDD Holding โดยจะเน้นตลาดคนละกลุ่มเป้าหมาย โดยที่ Pinduoduo จะเน้นกลุ่มผู้ซื้อในประเทศจีน ส่วน เทมู จะเน้นกลุ่มผู้ซื้อในต่างประเทศ Temu เข้ามาในไทยอย่างเป็นทางการเมื่อ วันนี้ 29 กรกฎาคม 2567 ที่ผ่านมา เป็นที่ฮือฮาใน วงการอีคอมเมิร์ซไทย เป็นอย่างมาก เพราะด้วย “ราคาสินค้า”ที่ถูกมาก จนนักช้อปออนไลน์ไม่พลาดที่แห่กันกดซื้อสินค้าจากแพลตฟอร์มดังกล่าว และมียอดดาวน์โหลดแอพพลิเคชันทั่วโลก ถึง 165 ล้านครั้งเลยทีเดียว และด้วยเหตุผลนี้ ก็สร้างความกังวลใจกับธุรกิจ SMEs รายย่อยในไทย หรือ พวกพ่อค้า แม่ค้าออนไลน์ ว่าจะยังขายของได้เหมือนเดิมไหม หรือ จะถูกแย่งลูกค้าที่เคยซื้อไปหรือเปล่า นั่นเอง ทำไม […]

Temu ศึกครั้งใหญ่ของ SMEs ไทย“จะรับมือยังไง ไม่ให้เจ๊ง!”

Temu (เทมู) แพลตฟอร์มขายสินค้าออนไลน์จากจีน ที่กำลังโด่งดังอยู่ตอนนี้ ซึ่งมีบริษัทแม่อย่าง Pinduoduo (พินตั๋วตั๋ว) อีคอมเมิร์ชเจ้าดังที่ประสบความสำเร็จในตลาดออนไลน์จีนมาแล้วก่อนหน้านี้ และมีผู้ก่อตั้งคนเดียวกัน ก็คือ Colin Huang หรือหวงเจิง ทั้ง 2 แฟลตฟอร์มนี้เป็นบริษัทค้าปลีก ในเครือ PDD Holding โดยจะเน้นตลาดคนละกลุ่มเป้าหมาย โดยที่ Pinduoduo จะเน้นกลุ่มผู้ซื้อในประเทศจีน ส่วน เทมู จะเน้นกลุ่มผู้ซื้อในต่างประเทศ Temu เข้ามาในไทยอย่างเป็นทางการเมื่อ วันนี้ 29 กรกฎาคม 2567 ที่ผ่านมา เป็นที่ฮือฮาใน วงการอีคอมเมิร์ซไทย เป็นอย่างมาก เพราะด้วย “ราคาสินค้า”ที่ถูกมาก จนนักช้อปออนไลน์ไม่พลาดที่แห่กันกดซื้อสินค้าจากแพลตฟอร์มดังกล่าว และมียอดดาวน์โหลดแอพพลิเคชันทั่วโลก ถึง 165 ล้านครั้งเลยทีเดียว และด้วยเหตุผลนี้ ก็สร้างความกังวลใจกับธุรกิจ SMEs รายย่อยในไทย หรือ พวกพ่อค้า แม่ค้าออนไลน์ ว่าจะยังขายของได้เหมือนเดิมไหม หรือ จะถูกแย่งลูกค้าที่เคยซื้อไปหรือเปล่า นั่นเอง ทำไม […]