Knowledge Center

ทำความเข้าใจทุก Platform การขาย ช่องทางไหนเวิร์คสุด?

ธุรกิจออนไลน์ไปได้สวย ต้องเข้าใจทุก Platform การขาย

          ธุรกิจ E-Commerce เติบโตขึ้นมาก ถึงมากที่สุดในปี2020 ยิ่งในช่วงวิกฤตแบบนี้ เพราะช่องทางออนไลน์ไม่ใช่แค่ตลาดเสมือนจริงที่จำลองโลกการซื้อขายไว้บนโลกออนไลน์ แต่เป็นช่องทางหลักอีกช่องทางหนึ่งที่ทำเงินให้ผู้ขายไม่แพ้การขายหน้าร้านเลย เผลอ ๆ มากกว่าด้วยซ้ำค่ะ ทั้งนี้เพราะ การขายออนไลน์ทำให้ผู้ขายเข้าถึงลูกค้ามากขึ้น และการซื้อของออนไลน์ หรือการใช้อินเตอร์เน็ตถือเป็นวิถีชีวิตของคนยุคใหม่ไปแล้ว และแน่นอนว่าทั้งผู้ซื้อและผู้ขายออนไลน์ต้องเคยซื้อขาย หรือเข้าไปในช่องทางต่าง ๆ เหล่านี้ 1. Social Media 2. E-Marketplace และ 3. บน Website ของแบรนด์ แล้วช่องทางไหนเป็นช่องทางที่ดี และเหมาะสมที่สุดในการขายกันแน่ วันนี้เราจะมาหาคำตอบไปพร้อม ๆ กันค่ะ

          ตามสถิติแล้วช่องทางการขายที่มีมานาน และเป็นช่องทางแรก ๆ ที่คนลงขายของกันก็คือ Social Media ไม่ว่าจะเป็น Facebook ก็ดี Instagram, Twitter ก็ดี หรือแม้แต่สื่อเพื่อความบันเทิงอย่าง Youtube เพราะเป็นช่องทางที่สามารถลงข้อมูลต่างๆ หรือขายของได้ฟรี ที่สำคัญมีฟีเจอร์แชทที่สามารถสอบถามพูดคุยกับผู้ขายได้โดยตรง จึงมีเปอร์เซ็นการซื้อของออนไลน์บนแพลตฟอร์ม Social Media สูงถึง 40 %

Social Media เพื่อการตัดสินใจซื้อสินค้า?

          จุดเด่นของ Social Media คือเป็นช่องทางที่แทรกซึมเข้าไปอยู่ในชีวิตประจำของทั้งผู้ซื้อและผู้ขาย เป็นช่องทางที่เหมาะกับแบรนด์ที่มีฐานลูกค้าอยู่แล้ว แต่จุดประสงค์ของ Social Media ไม่ใช่เกิดขึ้นเพื่อเป็นช่องทางการขาย แต่เป็นช่องทางการติดต่อสื่อสาร ดังนั้นผู้ขายควรจะใช้ Social Media ในการสื่อสารกับลูกค้า มากกว่าขายตรง ๆ หรือเป็นช่องทางประชาสัมพันธ์ต่าง ๆ มากกว่าค่ะ โดยเนื้อหาที่แบรนด์มักจะใช้สื่อสารกับผู้ติดตามใน Social Media ต่าง ๆ จะเป็น เทคนิคหรือเคล็ดลับ insight หรือการโน้มน้าวด้วยสื่อโฆษณา หรือสร้างแรงบันดาลใจในการตัดสินใจซื้อสินค้าเป็นต้น

          E-Marketplace หรือ เว็บไซต์ที่เป็นสื่อกลางการติดต่อซื้อ – ขาย เช่นเจ้าใหญ่ ๆ อย่าง Lazada, Shopee หรือ JD Central ก็ถือเป็นอีกหนึ่งช่องทางการขายที่โตเร็วมาก ๆ แทบจะเป็น 2 เท่าใน E-Commerce เลยก็ว่าได้เพราะ มาทีหลังก็จริง แต่มีเปอร์เซนต์การซื้อขายสูงถึง 35% เลยค่ะ เพราะลงขายง่าย ต้นทุนค่อนข้างต่ำมาก แต่นั่นก็หมายถึงเรามีคู่เเข่งเยอะด้วยค่ะ! จุดเด่นของ Marketplace คือ ลูกค้าที่เข้ามานั้น มีความต้องการซื้อมากเป็นทุนอยู่เเล้ว จึงทำให้มีโอกาสขายได้มากนั่นเอง ที่สำคัญไม่จำกัดพื้นที่ จะขายกี่SKU ขายเท่าไหร่ ก็ใช้พื้นที่ได้ฟรี ดังนั้นเหมาะมาก ๆ ที่จะใช้งานเป็น Sale Tool แต่ไม่เหมาะสำหรับแบรนด์ใหม่ ๆ หรือสินค้านวัตกรรมใหม่ ๆ ที่เข้ามาในตลาดค่ะ ทั้งนี้เพราะ เป็นช่องทางช่วยขาย ไม่ใช่ช่องทางสร้างแบรนด์ ถ้าสินค้าไม่มีฐานลูกค้า หรือคนรู้จักอยู่แล้ว โอกาสจะมาเริ่มต้นที่นี่แล้วประสบความสำเร็จก็น้อยค่ะ อีกทั้งผู้ที่จะประสบความสำเร็จในการขายออนไลน์จำเป็นต้องรู้เทคนิคและวิธีการที่ใช้ค่ะ ทั้งนี้เราเคยได้รวบรวมเอาสุดยอดเทคนิคการขายให้เป็น Top Seller บน Marketplaceต่าง ๆไว้ หากใครสนใจลองกดเข้าไปอ่านกัน เผื่อจะได้ไอเดียใหม่ ๆ นะคะ^^

           ช่องทางการขายสุดท้าย คือ บน Website ของแบรนด์ ซึ่งเป็นช่องทางที่น่าเชื่อถือที่สุด และเหมาะมาก ๆ กับแบรนด์ที่เป็นที่รู้จักของตลาดแล้ว อีกทั้งการทำการตลาด ไม่ใช่แค่เพียงต้องการที่จะขายของแล้วค่ะ แต่ยังมีปัจจัยอื่น ๆ ที่สำคัญ เพื่อรักษาลูกค้าให้อยู่กับเรา เพราะในยุคนี้การมี Digital Assets ก็ถือว่ามีชัยไปกว่าครึ่งแล้วค่ะ และในอนาคตธุรกิจที่สามารถรักษา Digital Assets หรือลูกค้า ผู้ติดตามบนแพลตฟอร์มของตัวเองไว้ได้ จะสามารถยืนหยัดด้วยตนเองได้ โดยไม่ต้องอาศัยแพลตฟอร์มอื่น ๆ แม้ในยามวิกฤตค่ะ

ขายอะไรดี?

          จริงแล้ว ๆ คงไม่มีใครตอบได้ว่าควรขายหรือไม่ขายอะไรนะคะเพราะความต้องการซื้อของคนเรานั้นมีมากมายและหลากหลายมาก ดังนั้นอะไรที่ขายออฟไลน์ ก็ขายบนออนไลน์ได้หมดเลยค่ะ เพราะหากมัวหาสินค้าที่แตกต่างไปลงขายแล้วจะเสียเวลาเปล่า ชนิดสินค้ามีมากมาย จะขายอะไรก็ซ้ำค่ะ เพราะฉะนั้นเรารู้จัก และมีความรู้เรื่องอะไรดี ก็ควรจะขายสิ่งนั้น เพราะเวลาลูกค้าอยากรู้อะไร ถามอะไร เราจะได้ตอบเขาได้ครบถ้วนค่ะ และที่สำคัญสิ่งที่ควรคำนึงถึงมากกว่าคือ ขายอย่างไรให้แตกต่าง สมัยนี้การเป็นตัวกลาง รับสินค้ามา ขายจะค่อย ๆ หายไปและขายไม่ได้ เพราะทำแบบนั้นทางผู้ผลิตสินค้าเองสักวันหนึ่งเขาก็ลงขายเองได้ ดังนั้นเราควรเพิ่มมูลค่าให้สินค้า ให้โดดเด่นขึ้น มีศิลปะในการทำโฆษณา หรือทำ Content ใส่เรื่องราวลงไปให้คนอยากติดตามเพิ่มขึ้นจะตอบโจทย์มากกว่าค่ะ

          การจัดการช่องทางการขายต่าง ๆ ให้เหมาะสม ต้องอาศัยความรู้ความเข้าใจในจุดเด่น และจุดด้อยของแต่ละช่องทาง และต้องทำให้ลุกค้าที่เข้ามาซื้อของของเราในช่องต่าง ๆ กลายมาเป็นลูกค้าของเรา ไม่ใช่แค่ลูกค้าใน Platform นั้น ๆ ค่ะ เพราะเวลาเปลี่ยนไปเมื่อ Platform ต่าง ๆ ถึงจุดอิ่มตัวแล้ว ทีนี้เราต้องง้อเขาแล้วค่ะ เพราะเขาจะไม่ใจดีกับเราเเบบที่เคยทำ หลังจากนี้อาจจะไม่ฟรีหรือถูกเสมอไป ดังนั้นถ้าเราสามารถดึงลูกค้าเข้ามาในช่องทางของเราเองได้เเล้ว ทีนี้การขายในครั้งต่อ ๆ ก็จะง่ายขึ้นได้ค่ะ 

สนใจศึกษาและลงทะเบียนได้ที่ www.mycloudfulfillment.com
หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
โทร: 092-472-7742, 02-138-9920
อีเมล: [email protected]
line: @mycloudgroup
MyCloudFulfillment ขายของง่ายไม่ต้องแตะสต๊อก
บริการคลังสินค้าออนไลน์ เก็บ แพ็ค ส่ง ครบวงจร

บทความที่เกี่ยวข้อง

อ่านเพิ่มเติม

การหยิบสินค้ามีกี่แบบ? FIFO, LIFO, FEFO แต่ละแบบต่างกันอย่างไร

เคยสงสัยกันไหมครับ แค่การหยิบสินค้าไปแพ็คส่งลูกค้า ต้องมีรูปแบบด้วยหรอ? ไปหาคำตอบกันได้เลยครับ!! จริง ๆ แล้วทุกขั้นตอนของการบริการ fulfillment มีความสำคัญทั้งหมดเลยครับ แต่บางคนอาจจะให้ความสำคัญไปที่ขั้นตอนการเก็บ การเเพ็ค และส่งมากกว่า จนลืมไปว่าหากขั้นตอนการหยิบสินค้าก่อนแพ็คผิดผลาดก็อาจเกิดปัญหาในขั้นตอนถัด ๆ มาได้ครับ ซึ่งก่อนหน้านี้ใน ขั้นตอนการหยิบสินค้า (Picking) ในคลังสินค้า ผมได้ยกตัวอย่างวิธีการหยิบสินค้า ที่คลังสินค้าต่าง ๆ มักใช้กันไปแล้วนะครับ blog นี้ผมจึงอยากให้ทุกคนรู้จักรูปแบบการหยิบสินค้ากันบ้างครับ  การหยิบสินค้าแบบ FIFO, LIFO, และ FEFO FIFO FIFO หรือ First-In First-Out เหมาะกับร้านค้าที่ขายสินค้าที่มีวันหมดอายุเช่น เภสัชภัณฑ์ อาหารและเครื่องดื่ม รวมถึงร้านค้าที่มีสินค้าหลายชนิด หรือสินค้าประเภทอื่น ๆ ที่มีการเปลี่ยนแปลงจำนวน เปลี่ยนราคาอยู่บ่อย ๆ ซึ่งมีความหมายตรงตัวคือการหยิบสินค้าที่เก็บเข้าคลังก่อนออกไปก่อน เพื่อลดปัญหาสินค้าเสื่อมสภาพจากการเก็บเป็นเวลานานครับ ประโยชน์ของการหยิบสินค้าแบบ FIFO FEFO FEFO หรือ First Expire date First Out หมายถึง สินค้าใดที่จะหมดอายุก่อน จ่ายออกไปก่อน […]

การหยิบสินค้ามีกี่แบบ? FIFO, LIFO, FEFO แต่ละแบบต่างกันอย่างไร

เคยสงสัยกันไหมครับ แค่การหยิบสินค้าไปแพ็คส่งลูกค้า ต้องมีรูปแบบด้วยหรอ? ไปหาคำตอบกันได้เลยครับ!! จริง ๆ แล้วทุกขั้นตอนของการบริการ fulfillment มีความสำคัญทั้งหมดเลยครับ แต่บางคนอาจจะให้ความสำคัญไปที่ขั้นตอนการเก็บ การเเพ็ค และส่งมากกว่า จนลืมไปว่าหากขั้นตอนการหยิบสินค้าก่อนแพ็คผิดผลาดก็อาจเกิดปัญหาในขั้นตอนถัด ๆ มาได้ครับ ซึ่งก่อนหน้านี้ใน ขั้นตอนการหยิบสินค้า (Picking) ในคลังสินค้า ผมได้ยกตัวอย่างวิธีการหยิบสินค้า ที่คลังสินค้าต่าง ๆ มักใช้กันไปแล้วนะครับ blog นี้ผมจึงอยากให้ทุกคนรู้จักรูปแบบการหยิบสินค้ากันบ้างครับ  การหยิบสินค้าแบบ FIFO, LIFO, และ FEFO FIFO FIFO หรือ First-In First-Out เหมาะกับร้านค้าที่ขายสินค้าที่มีวันหมดอายุเช่น เภสัชภัณฑ์ อาหารและเครื่องดื่ม รวมถึงร้านค้าที่มีสินค้าหลายชนิด หรือสินค้าประเภทอื่น ๆ ที่มีการเปลี่ยนแปลงจำนวน เปลี่ยนราคาอยู่บ่อย ๆ ซึ่งมีความหมายตรงตัวคือการหยิบสินค้าที่เก็บเข้าคลังก่อนออกไปก่อน เพื่อลดปัญหาสินค้าเสื่อมสภาพจากการเก็บเป็นเวลานานครับ ประโยชน์ของการหยิบสินค้าแบบ FIFO FEFO FEFO หรือ First Expire date First Out หมายถึง สินค้าใดที่จะหมดอายุก่อน จ่ายออกไปก่อน […]