ในยุคที่การช้อปปิ้งออนไลน์กำลังเฟื่องฟู Shopee กลายเป็นแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซยอดนิยมที่ผู้ประกอบการหลายคนเลือกเป็นช่องทางในการขายสินค้า แต่หลายคนอาจยังไม่ทราบว่าการขายของใน Shopee มีค่าใช้จ่ายอะไรบ้าง วันนี้เราจะมาไขข้อข้องใจเกี่ยวกับค่าธรรมเนียมต่าง ๆ ที่ผู้ขายต้องจ่ายเมื่อเปิดร้านบน Shopee เพื่อให้คุณสามารถวางแผนธุรกิจและคำนวณต้นทุนได้อย่างแม่นยำ พร้อมแล้วมาดูกันว่าขายของใน Shopee เสียค่าอะไรบ้าง
ขายของใน shopee เสียค่าอะไรบ้าง
ก่อนที่จะเริ่มขายสินค้าบน Shopee ผู้ขายควรทำความเข้าใจเกี่ยวกับค่าธรรมเนียมต่าง ๆ ที่จะต้องจ่าย เพื่อให้สามารถตั้งราคาสินค้าได้อย่างเหมาะสมและทำกำไรได้ตามเป้าหมาย มาดูกันว่ามีค่าใช้จ่ายอะไรบ้าง
1. ค่าธรรมเนียมจากการขาย
การขายของใน Shopee มีค่าธรรมเนียมการขายที่แตกต่างกันตามประเภทของร้านค้าและหมวดหมู่สินค้า ซึ่งทางช้อปปี้จะเรียกเก็บค่าธรรมเนียมในส่วนนี้จากทั้ง Shopee Seller ที่ลงขายแบบ Mall Sellers และ Non-Mall Sellers นั้น ทางช้อปปี้จะเริ่มเก็บค่าธรรมเนียมเมื่อได้รับคำสั่งซื้อและจัดการคำสั่งซื้อจนเสร็จ ซึ่งจะเก็บค่าธรรมเนียมตามประเภทของสินค้า ดังนี้
Shopee Mall Seller (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) | Non-Mall Seller (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) | |
สินค้าในหมวดหมู่อิเล็กทรอนิกส์ | 9% – 11% | 8% |
สินค้าในหมวดหมู่อิเล็กทรอนิกส์ ได้แก่ กล้อง, เลนส์กล้อง, โดรน, คอมพิวเตอร์แบบตั้งโต๊ะ, Laptop,อุปกรณ์คอมพิวเตอร์, หน้าจอคอมพิวเตอร์, เครื่องเกม, โทรศัพท์มือถือ, Tablet, เครื่องใช้ไฟฟ้าขนาดใหญ่, ทีวีและอุปกรณ์อื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง | 5% – 11% | 5% |
สินค้าอุปโภคบริโภค (FMCG) สินค้าแฟชัน สินค้าสกินแคร์ อาหารเสริมและหมวดหมู่อื่น ๆ | 11.77% | 8.56% |
สินค้าในหมวดหมู่แฟชัน ได้แก่ แหวน กำไลข้อมือ สร้อยและต่างหู แพลทตินั่มและทอง | 11.77% | 8.03% |
2. ค่าธรรมเนียมในการธุรกรรมผ่านบัญชีธนาคาร
เมื่อลูกค้าเลือกชำระเงินผ่านการโอนเงินหรืออินเทอร์เน็ตแบงก์กิ้ง Shopee จะคิดค่าธรรมเนียมจากผู้ขาย 3.21% (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) ของยอดรวมทั้งหมด ซึ่งรวมถึงค่าขนส่งและหลังหักส่วนลดต่าง ๆ รวมถึง Shopee Coin ด้วย ค่าธรรมเนียมนี้ครอบคลุมการทำธุรกรรมทั้งหมดที่เกิดขึ้นผ่านระบบธนาคาร ไม่ว่าจะเป็นการโอนเงินแบบปกติหรือการชำระผ่านระบบออนไลน์ ผู้ขายควรคำนึงถึงค่าใช้จ่ายส่วนนี้เมื่อตั้งราคาสินค้า
3. ค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมผ่านบัตรเครดิตหรือบัตรเดบิต แบบผ่อนชำระ
สำหรับการชำระเงินผ่านบัตรเครดิตหรือบัตรเดบิต Shopee มีการคิดค่าธรรมเนียมจากผู้ขาย โดยคำนวณจากยอดชำระ หลังหักส่วนลดและ Shopee Coin แล้ว ในกรณีที่ลูกค้าเลือกผ่อนชำระ ร้านค้าจะมีค่าธรรมเนียมเพิ่มเติม ดังนี้
- ระยะเวลาผ่อน 3 เดือน อัตราค่าธรรมเนียม 4.28% (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม)
- ระยะเวลาผ่อน 6 เดือน อัตราค่าธรรมเนียม 5.89% (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม)
- ระยะเวลาผ่อน 10 เดือน อัตราค่าธรรมเนียม 6.42% (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม)
4. ค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมผ่าน AirPay Wallet
เมื่อลูกค้าชำระเงินผ่าน AirPay Wallet ไม่ว่าจะซื้อผ่านเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชัน Shopee จะคิดค่าธรรมเนียม 2% จากผู้ขาย โดยคำนวณจากยอดรวมทั้งหมดที่ลูกค้าชำระ ซึ่งรวมค่าขนส่ง และคำนวณหลังจากหักส่วนลดต่าง ๆ และ Shopee Coin แล้ว วิธีการชำระเงินนี้เป็นที่นิยมเพราะสะดวกสำหรับผู้ซื้อ แม้จะมีค่าธรรมเนียมสำหรับผู้ขายก็ตาม
5. ค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมผ่าน SpayLater
SpayLater เป็นบริการผ่อนชำระที่ทาง Shopee ได้นำเสนอให้กับลูกค้า โดยมีค่าธรรมเนียมที่แตกต่างกันตามระยะเวลาการผ่อนชำระ สำหรับร้านที่มีเลือกอำนวยความสะดวกให้แก่ลูกค้าก็ถูกหักค่าธรรมเนียมในส่วนนี้ 3%
นอกจากนี้ ยังมีค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมผ่าน Special SpayLater อีกด้วย โดยค่าธรรมเนียมที่ทางร้านค้าจะต้องเสียจะแบ่งออกไปตามระยะเวลาในการผ่อนชำระสินค้า ดังนี้
- ระยะเวลาผ่อน 1 – 2 เดือน อัตราค่าธรรมเนียม 3%
- ระยะเวลาผ่อน 3 เดือน อัตราค่าธรรมเนียม 4%
- ระยะเวลาผ่อน 5 เดือน อัตราค่าธรรมเนียม 5.5%
- ระยะเวลาผ่อน 12 เดือน อัตราค่าธรรมเนียม 6%
6. ค่าธรรมเนียมสำหรับการทำธุรกรรมแบบชำระเงินปลายทาง
สำหรับการชำระเงินปลายทางหรือ COD (Cash on Delivery) Shopee จะคิดค่าธรรมเนียม 2% จากผู้ขาย โดยคำนวณจากยอดรวมทั้งหมดที่รวมค่าขนส่งและหลังหักส่วนลดต่าง ๆ รวมถึง Shopee Coin การชำระเงินปลายทางเป็นตัวเลือกที่ได้รับความนิยมจากผู้ซื้อ แต่ผู้ขายควรคำนึงถึงค่าธรรมเนียมนี้ในการคำนวณต้นทุน
สรุปบทความ
ขายของใน shopee เสียค่าอะไรบ้าง การขายของใน Shopee มีค่าธรรมเนียมหลายประเภทที่ผู้ขายต้องทำความเข้าใจ ตั้งแต่ค่าธรรมเนียมการขายที่แตกต่างกันตามประเภทสินค้า ไปจนถึงค่าธรรมเนียมการชำระเงินในรูปแบบต่าง ๆ ดังนั้น หากผู้ขายรู้และเข้าใจค่าใช้จ่ายเหล่านี้ ก็จะช่วยให้ผู้ขายสามารถวางแผนธุรกิจ ตั้งราคาสินค้าและคำนวณกำไรได้อย่างแม่นยำทำให้ธุรกิจออนไลน์ให้ประสบความสำเร็จได้
สำหรับใครที่ต้องการจะเปิดร้านค้าบน Shopee นอกจากต้องคำนึงถึงค่าใช้จ่ายเรื่องค่าธรรมเนียมที่ต้องจ่ายให้กับแพลตฟอร์มแล้ว ในส่วนค่าใช้จ่ายอื่น ๆ เช่น การจัดการออเดอร์ และการสต๊อกสินค้าก็จำเป็นต้องให้ความสำคัญด้วยเช่นกัน เพราะค่าใช้จ่ายเหล่านี้มีผลด่อเรื่องต้นทุนและกำไร ดังนั้นหากคุณกำลังมองหาพาร์ทเนอร์ผู้เชี่ยวชาญเรื่องคลังสินค้าออนไลน์ MyCloud Fulfillment เราพร้อมเป็นผู้ช่วยให้คุณบริหารจัดการเรื่องออเดอร์และสต๊อกสินค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยบริการที่ครบวงจรตั้งแต่การเก็บ แพ็กและส่งสินค้า ระบบเชื่อมต่อช่องทางการขาย Omnichannel Management ระบบจัดการออเดอร์ ระบบจัดการคลังสินค้าใช้สต๊อกตัวเดียวเชื่อมต่อได้ทุกช่องทางการขาย และทีมงานมืออาชีพกว่า 1,200 คน ที่พร้อมจัดการออเดอร์ให้คุณได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทำให้คุณไม่ต้องเสียเวลาจัดการเรื่องหลังบ้าน ไม่ต้องเสียค่าจ้างพนักงานเพิ่ม อีกทั้งไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายในเรื่องของระบบการจัดการออเดอร์ ระบบจัดการคลังสินค้าที่อาจจะต้องลงทุนซื้อระบบในส่วนนี้เพิ่ม เราช่วยให้คุณมีเวลาไปโฟกัสกับการขายและพัฒนาธุรกิจให้เติบโตได้มากขึ้น และที่สำคัญที่สุด เราช่วยควบคุมต้นทุนค่าใช้จ่ายในการดำเนินธุรกิจออนไลน์ให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด
หากสนใจ Fulfillment โซลูชันที่ครบวงจรแบบนี้ สามารถติดต่อเราได้ที่ https://www.mycloudfulfillment.com/quotation