Knowledge Center

ไขข้อสงสัย KPI กับ OKRs ต่างกันอย่างไร ?

          ไขข้อสงสัย KPI กับ OKRs ต่างกันอย่างไร ?  

    OKRs ที่หลาย ๆ บริษัทกำลังให้ความสนใจ เป็นกุญแจสำคัญที่ช่วยขับเคลื่อนองค์กรให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพที่สุดจริงหรือไม่? แล้วเป็นเครื่องมือที่ใช้ประเมินผลที่บริษัทต่าง ๆ ใช้กันอย่าง KPI หรือเปล่า? จากนั้นก็เริ่มตั้งคำถามกันล่ะครับว่าสรุปตัวไหนได้ผลดีกว่ากัน? หลายคนอ่านมาถึงตรงนี้ยิ่งคิ้วขมวดไปกันใหญ่ เพราะยังไม่ค่อยสนิทกับทั้ง 2 อย่างเลย งั้นวันนี้ ผมจะพาไปรู้จักกับ KPI และ OKRs ฉบับเข้าใจง่าย ว่ามันคืออะไร และมีความเหมือนหรือแตกต่างกันอย่างไร รวมถึงมันจะช่วยให้การทำงานมีประสิทธิภาพขึ้นได้อย่างไรกันครับ

       KPI คืออะไร?

          KPI ย่อมาจาก Key Performance Indicator เป็นตัวชี้วัดความสำเร็จหรือความก้าวหน้า เพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพการดำเนินการขององค์กร หรือแม้แต่ประเมินการทำงานของตัวบุคคลว่ามีศักยภาพเพียงใด โดยเทียบผลการทำงานกับมาตรฐานหรือเป้าหมายที่ได้ตกลงกันไว้ ซึ่งถือว่าเป็นตัวชี้วัดที่น่าเชื่อถือมากครับ เพราะผลที่ออกมาจะอยู่ในรูปของตัวเลขหรือเป็นรูปธรรมที่เห็นได้ชัดและสามารถอ้างอิงได้ ดังนั้นอาจกล่าวได้ว่าเจ้า KPI ตัวนี้เป็นตัวชี้วัดความสำเร็จของธุรกิจ เพราะหากประสิทธิภาพในการทำงานมีมาก หรือมีเท่ากับเกณฑ์เป้าหมายที่กำหนดไว้ก็แสดงว่าการทำงานนั้นประสบความสำเร็จบรรลุผลครับ

       OKRs คืออะไร?

          OKRs ย่อมาจาก Objectives and Key Results เป็นวิธีการตั้งเป้าหมายไปสู่ความสำเร็จขององค์กร โดยมีวัตถุประสงค์หลัก (Objectives) ที่จะมีความสอดคล้องกันในทุก ๆ ระดับในองค์กร ตั้งแต่ระดับผู้บริหารไปจนถึงระดับพนักงาน โดยที่ผู้บริหารระดับสูงจะตั้ง OKRs ระดับองค์กรขึ้นมาก่อน จากนั้นเปิดโอกาสให้ผู้บุคลากรในระดับต่าง ๆ รวมถึงพนักงาน ตั้ง OKRs ทั้งของตนเองและหน่วยงานตนเอง ที่สอดคล้องกับ OKRs ของทั้งองค์กร เป็นระบบที่แสดงให้เห็นถึง Teamwork เพราะทุกฝ่ายประสานงานกัน เพื่อไปบรรลุเป้าหมาย และมีผลลัพธ์หลัก (Key Results) คือการกำหนดตัววัดผลที่เป็นวิธีการที่ทำให้องค์กรประสบความสำเร็จ โดยจะต้องปฏิบัติไปในทางเดียว เพื่อให้องค์กรประสบความสำเร็จได้อย่างรวดเร็ว

       OKR ต่างจาก KPI อย่างไร?

คำถามสำคัญที่คนส่วนใหญ่มักสงสัย คือ KPI กับ OKRs มีความแตกต่างกันอย่างไร ผมขอสรุปความต่างที่เห็นได้ชัดตามนี้ครับ 

KPI

– เป้าหมายของตัวชี้วัดถูกตั้งขึ้นโดยองค์กรเป็นหลัก

– ตัวชี้วัดมักจะไม่ค่อยเปลี่ยนแปลง เมื่อตกลงกันแล้วจะคงระบบเดิมไว้

– มีผลโดยตรงต่อผลตอบแทนที่พนักงานได้รับ หรือที่เราเรียกว่า Compensation KPI

– สามารถควบคุมผลลัพธ์ได้ทั้งหมด เพราะจะเป็นตัวชี้วัดที่มีผลเป็นตัวเลขที่ชัดเจน

– KPI มักจะไม่ค่อยมีการทำงานประสานกัน มักจะเน้นแต่เฉพาะ KPIs ของตัวเอง

– การออกแบบจะเน้นในรูปแบบของ Top-Down เป็นหลัก คือผู้บริหารระดับสูงจะออกแบบตัววัดระดับองค์กร จนไปถึงระดับพนักงานด้วยตนเอง

OKRs

– พนักงานมีส่วนร่วมหรือเป็นคนตั้งเป้าหมาย OKRs ขององค์กร

– ท้าทายระบบการทำงานแบบเดิม และสามารถเปลี่ยนได้ตลอดเวลาจึงทำให้เกิดความคิดสร้างสรรค์ใหม่ ๆ ได้ง่ายกว่า

– ไม่มีผลต่อผลตอบแทนของพนักงานในแต่ละบุคคล

– ทีมสามารถควบคุมผลลัพธ์ของ OKR ได้เพียงบางส่วน เพราะเป็นการตั้งเป้าหมายให้สูงไว้ก่อน

– OKRs จะทำให้เกิด Teamwork มากกว่า ทุกฝ่ายร่วมมือกันทำงาน

– การออกแบบจะเป็นรูปแบบผสมระหว่าง Top-Down กับ Bottom-Up ผู้บริหารระดับสูงจะตั้ง OKRs ระดับองค์กรขึ้นมาก่อน จากนั้นเปิดโอกาสให้ผู้บุคลากรในระดับต่าง ๆ รวมถึงพนักงาน ตั้ง OKRs ที่สอดคล้องกันทั้งองค์กร

       สรุปจุดเด่นของ KPI และ OKRs

          อ่านมาถึงตรงนี้คงจะพอเห็นภาพกันแล้วใช่ไหมว่า KPI และ OKRs เหมือน และต่างกันอย่างไร กล่าวโดยสรุปก็คือ ทั้งสองตัวมีหน้าที่ในการวัดผลของการทำงานเหมือนกัน แต่KPI เป็นการกำหนดเป้าหมายจากผู้บริหารมาสู่พนักงานในลักษณะ top down แต่มีข้อดีตรงที่สามารถวัดผลได้อย่างชัดเจนและผลออกมาเป็นตัวเลขซึ่งสามารถนำไปเปรียบเทียบ คำนวณต่อได้ง่าย ซึ่งแตกต่างจาก OKRs ที่มีความหลากหลายและเปิดโอกาสให้พนักงานมีส่วนร่วมในการกำหนดแลกเปลี่ยนเป้าหมาย ในลักษณะ two way ซึ่งตรงจุดนี้ถือว่าได้เปรียบเพราะผู้ที่อยู่ใกล้ชิดกับตัวงานมากกว่า ย่อมมองเห็นปัญหา ทราบปัญหาที่แท้จริงขององค์กร และตั้งเป้าหมายเพื่อไปเติมเต็มจุดบอด หรือสิ่งที่ยังขาดไปขององค์กร เพื่อให้ธุรกิจดำเนินต่อไปได้อย่างยั่งยืน ซึ่งจุดเด่นเหล่านี้ไปโดนใจหลายองค์กรระดับโลก เช่น Google, Twitter, Intel, Uber หรือผู้ให้บริการเครือข่ายใหญ่ ๆ อย่าง AIS และ DTAC ให้เลือกใช้ OKRs ด้วยเหมือนกันครับ

          การวัดผลหรือการประเมินผลในการทำงานนั้น ส่งผลดีต่อองค์กรมามากมายนับไม่ถ้วน องค์กรควรวัดประสิทธิภาพของการทำงาน หรือผลลัพธ์ที่ได้ เพื่อการวางแผนกลยุทธ์หรือแนวทาง.ในการทำงานต่อไป ซึ่งนอกจากจะมีประโยชน์กับบริษัทที่ได้วัดความสามารถของพนักงานแล้ว พนักงานเองก็ยังได้เห็นภาพรวมการทำงานที่ผ่านมา แล้วหาจุดที่จะต้องปรับปรุงแก้ไขตัวเองให้ดีขึ้นอีกด้วยครับ

สนใจศึกษาและลงทะเบียนได้ที่ www.mycloudfulfillment.com
หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
โทร: 092-472-7742, 02-138-9920
อีเมล: [email protected]
line: @mycloudgroup
MyCloudFulfillment ขายของง่ายไม่ต้องแตะสต๊อก
บริการคลังสินค้าออนไลน์ เก็บ แพ็ค ส่ง ครบวงจร

บทความที่เกี่ยวข้อง

อ่านเพิ่มเติม

Fulfillment คืออะไร ช่วยธุรกิจจริงหรอ?

Fulfillment คืออะไร สำคัญกับธุรกิจยุคนี้จริงไหม?           ได้ยินกันบ่อย ๆ สำหรับคำว่า Fulfillment แท้จริงแล้วมันคืออะไร ใช่สิ่งที่ผู้ประกอบการมองหาหรือไม่? คำ ๆ นี้ไม่ใช่สิ่งใหม่ แต่เป็นบริการที่จะช่วยผู้ประกอบการยุคนี้ อยู่รอดและมีรายได้เพิ่มมากขึ้น!แล้วบริการ Fulfillment ทำให้สะดวกสบายมากขึ้นอย่างไร? ขายของได้อัตโนมัติและมียอดขายเพิ่มขึ้นจริงหรือ? ไปรู้จักบริการนี้กันดีว่าครับ Fulfillment มีความหมายว่าอะไร?            คำว่า Fulfillment ในภาษาไทยหมายถึง การเติมเต็มเพื่อบรรลุวัตถุประสงค์ ดังนั้นการใช้คำนี้ในเชิงธุรกิจจึงเปรียบเหมือนการช่วยเติมเต็มการทำงานของร้านค้าออนไลน์ให้สมบูรณ์นั่นเอง แล้วบริการ Fulfillment คืออะไร? สามารถช่วยธุรกิจค้าขายออนไลน์หรือธุรกิจ E-Commerce ได้อย่างไร? มาทำความรู้จักให้มากขึ้นกันดีกว่า บริการ Fulfillment คืออะไร? (What is Fulfillment ?)            Fulfillment คือ บริการคลังสินค้าพร้อมจัดส่ง เป็นบริการที่อำนวยความสะดวกเพื่อธุรกิจค้าขายออนไลน์หรือธุรกิจ E-Commerce ในเรื่องของพื้นที่จัดเก็บสินค้า (คลังสินค้า) […]

Live Commerce เทรนด์ใหม่มาแรง ที่ธุรกิจ E-Commerce ต้องรู้จัก!

          Live Commerce ที่เราพบเห็นจนชินตาปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นการไลฟ์ขายของด้วยตนเอง หรือจ้างพรีเซนเตอร์ที่เป็น เน็ตไอดอล ศิลปินดารามาไลฟ์ขายสินค้านั้นเรียกได้ว่าเป็นที่นิยม มีโอกาสที่จะขายดีเป็นเทน้ำเทท่า และอาจขายได้มากกว่าการโพสต์ขายทั่วไปด้วยซ้ำ เพราะคนไทยเราก็คุ้นชินและชื่นชอบกันเป็นอย่างดีสำหรับการไลฟ์ผ่านโซเชียลมีเดียต่าง ๆ วันนี้เราจึงมีรูปแบบการขายใหม่ที่เรียกว่า Live Commerce ที่กำลังฮิตติดเทรนด์และน่าสนใจอย่างมากมาให้รู้จักกันค่ะ เพราะหากไม่รู้จักเทรนด์ดังกล่าวก็ถือว่าพลาดโอกาสทองของการขายได้เลย รู้หรือไม่? ในต่างประเทศไม่ได้ใช้ Social Media ขายของ           แปลกแต่จริงค่ะ ต่างชาติจะไม่ค่อยนิยมไลฟ์หรือโพสต์ผ่านช่องทาง Social Media เท่าไรค่ะ เพราะแท้จริงแล้วจุดประสงค์ของช่องทางออนไลน์เหล่านี้ ไม่ได้เกิดขึ้นมาเพื่อขายของ แต่เป็นช่องทางของการเรียนรู้ไลฟ์สไตล์ สังสรรค์ และติดต่อสื่อสารกันในรูปแบบของเพื่อน ๆ กันมากกว่าเป็นผู้ขายและผู้ซื้อ จึงมีแค่ไทย จีน และไต้หวัน เท่านั้นที่นิยมใช้แพลตฟอร์มนี้ในการค้าขาย แต่อย่างไรก็ตามเมื่อคนไทยได้นำมาประยุกต์ใช้ขายสินค้า จนเป็นคุ้นเคยและขายดิบขายดี ช่องทางเหล่านี้จึงเป็นที่นิยมมากในการขายของธุรกิจ E-Commerce ในปัจจุบัน และสามารถช่วยให้ขายสินค้าได้มากขึ้นโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายอีกด้วย ดังนั้นจึงมีคำว่า “Social […]

Fulfillment คืออะไร ช่วยธุรกิจจริงหรอ?

Fulfillment คืออะไร สำคัญกับธุรกิจยุคนี้จริงไหม?           ได้ยินกันบ่อย ๆ สำหรับคำว่า Fulfillment แท้จริงแล้วมันคืออะไร ใช่สิ่งที่ผู้ประกอบการมองหาหรือไม่? คำ ๆ นี้ไม่ใช่สิ่งใหม่ แต่เป็นบริการที่จะช่วยผู้ประกอบการยุคนี้ อยู่รอดและมีรายได้เพิ่มมากขึ้น!แล้วบริการ Fulfillment ทำให้สะดวกสบายมากขึ้นอย่างไร? ขายของได้อัตโนมัติและมียอดขายเพิ่มขึ้นจริงหรือ? ไปรู้จักบริการนี้กันดีว่าครับ Fulfillment มีความหมายว่าอะไร?            คำว่า Fulfillment ในภาษาไทยหมายถึง การเติมเต็มเพื่อบรรลุวัตถุประสงค์ ดังนั้นการใช้คำนี้ในเชิงธุรกิจจึงเปรียบเหมือนการช่วยเติมเต็มการทำงานของร้านค้าออนไลน์ให้สมบูรณ์นั่นเอง แล้วบริการ Fulfillment คืออะไร? สามารถช่วยธุรกิจค้าขายออนไลน์หรือธุรกิจ E-Commerce ได้อย่างไร? มาทำความรู้จักให้มากขึ้นกันดีกว่า บริการ Fulfillment คืออะไร? (What is Fulfillment ?)            Fulfillment คือ บริการคลังสินค้าพร้อมจัดส่ง เป็นบริการที่อำนวยความสะดวกเพื่อธุรกิจค้าขายออนไลน์หรือธุรกิจ E-Commerce ในเรื่องของพื้นที่จัดเก็บสินค้า (คลังสินค้า) […]

Live Commerce เทรนด์ใหม่มาแรง ที่ธุรกิจ E-Commerce ต้องรู้จัก!

          Live Commerce ที่เราพบเห็นจนชินตาปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นการไลฟ์ขายของด้วยตนเอง หรือจ้างพรีเซนเตอร์ที่เป็น เน็ตไอดอล ศิลปินดารามาไลฟ์ขายสินค้านั้นเรียกได้ว่าเป็นที่นิยม มีโอกาสที่จะขายดีเป็นเทน้ำเทท่า และอาจขายได้มากกว่าการโพสต์ขายทั่วไปด้วยซ้ำ เพราะคนไทยเราก็คุ้นชินและชื่นชอบกันเป็นอย่างดีสำหรับการไลฟ์ผ่านโซเชียลมีเดียต่าง ๆ วันนี้เราจึงมีรูปแบบการขายใหม่ที่เรียกว่า Live Commerce ที่กำลังฮิตติดเทรนด์และน่าสนใจอย่างมากมาให้รู้จักกันค่ะ เพราะหากไม่รู้จักเทรนด์ดังกล่าวก็ถือว่าพลาดโอกาสทองของการขายได้เลย รู้หรือไม่? ในต่างประเทศไม่ได้ใช้ Social Media ขายของ           แปลกแต่จริงค่ะ ต่างชาติจะไม่ค่อยนิยมไลฟ์หรือโพสต์ผ่านช่องทาง Social Media เท่าไรค่ะ เพราะแท้จริงแล้วจุดประสงค์ของช่องทางออนไลน์เหล่านี้ ไม่ได้เกิดขึ้นมาเพื่อขายของ แต่เป็นช่องทางของการเรียนรู้ไลฟ์สไตล์ สังสรรค์ และติดต่อสื่อสารกันในรูปแบบของเพื่อน ๆ กันมากกว่าเป็นผู้ขายและผู้ซื้อ จึงมีแค่ไทย จีน และไต้หวัน เท่านั้นที่นิยมใช้แพลตฟอร์มนี้ในการค้าขาย แต่อย่างไรก็ตามเมื่อคนไทยได้นำมาประยุกต์ใช้ขายสินค้า จนเป็นคุ้นเคยและขายดิบขายดี ช่องทางเหล่านี้จึงเป็นที่นิยมมากในการขายของธุรกิจ E-Commerce ในปัจจุบัน และสามารถช่วยให้ขายสินค้าได้มากขึ้นโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายอีกด้วย ดังนั้นจึงมีคำว่า “Social […]