Self Fulfillment vs Other Fulfillmentvs MyCloud Fulfillment

Why MyCloud

Self-Fulfillment vs Outsourced Fulfillment 

ในช่วงเริ่มต้นธุรกิจออนไลน์ เป็นเรื่องปกติที่หลายคนมักจัดการทุกขั้นตอนด้วยตัวเองตั้งแต่การแพ็ก ส่งสินค้าไปจนถึงการจัดการสต๊อก แต่เมื่อเปรียบเทียบกับธุรกิจที่ใช้บริการ Fulfillment ในการจัดการเรื่องหลังบ้านทุกขั้นตอนนั้น จะมีข้อแตกต่างและข้อดีอะไรบ้าง พบกับคำตอบในบทความนี้ได้เลยค่ะ

ทำคลังสินค้าเอง

(Self-Fulfillment)

ใช้บริการคลังสินค้าออนไลน์

(Outsourced Fulfillment)

ทำคลังสินค้าเอง

(Self-Fulfillment)

ใช้บริการคลังสินค้าออนไลน์

(Outsourced Fulfillment)

การลงทุนเริ่มต้นที่สูงในพื้นที่คลังสินค้า,อุปกรณ์และเทคโนโลยี รวมถึงค่าซ่อมแซมและการอัปเกรดของอุปกรณ์ต่างๆ

การลงทุน

การลงทุนเริ่มแรกน้อย เนื่องจากธุรกิจไม่จำเป็นต้องซื้อหรือเช่าคลังสินค้า ไม่ต้องลงทุนเรื่องอุปกรณ์หรือระบบเทคโนโลยีต่างๆ ผู้ให้บริการ รับผิดชอบค่าใช้จ่ายเหล่านี้

การปรับเปลี่ยนพื้นที่คลังสินค้าเพื่อรองรับออเดอร์จำนวนเยอะอาจจะทำได้ยากและอาจจะต้องลงทุนเพิ่ม หรือในช่วงที่มีออเดอร์น้อยอาจทำให้การใช้ทรัพยากรไม่คุ้มค่า เช่น คนแพ็กสินค้า,พื้นที่จัดเก็บ

ความยืดหยุ่นในการขยาย

]มีความยืดหยุ่นสูงสามารถปรับเปลี่ยนขยายขึ้นหรือลงได้ตามความต้องการ โดยเฉพาะช่วงแคมเปญใหญ่ Double Day ที่ออเดอร์จำนวนเยอะ

ไม่มีระบบการจัดการคลังสินค้าที่มีประสิทธิภาพอาจจะทำให้มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมรวมถึงยังส่งผลต่อความพึงพอใจของลูกค้าได้

ประสิทธิภาพการดำเนินงาน

ผู้ให้บริการคลังสินค้าออนไลน์มีระบบการจัดการที่ออกแบบมาการใช้งานมาได้อย่างครอบคลุมทั้งในส่วนของระบบการจัดการออเดอร์และระบบการจัดการคลังสินค้า ระบบที่ดีและมีประสิทธิภาพส่งผลให้เกิดความรวดเร็วและถูกต้อง ทำลูกค้าเกิดความพึงพอใจด้วยเช่นกัน

การส่งสินค้าระหว่างประเทศอาจมีความซับซ้อนและมีเรทราคาสูง ต้องจัดการกับศุลกากร,ภาษี ด้วยตัวเอง ซึ่งอาจทำให้การดำเนินการล่าช้าและมีค่าใช้จ่ายที่สูง

การจัดส่งระหว่างประเทศ

ผู้ให้บริการคลังสินค้าออนไลน์ขนาดใหญ่มักจะมีเครือข่ายทั่วโลก ซึ่งทำให้การส่งสินค้าระหว่างประเทศง่ายและคุ้มค่ามากขึ้น อีกทั้งขั้นตอนในการประสานงานรวดเร็วอีกด้วย

เจ้าของธุรกิจอาจขาดความรู้เฉพาะทาง ซึ่งนำไปสู่ความล่าช้าการดำเนินงาน หรือปัญหาอื่น ๆ อาจต้องมีการฝึกอบรมเพิ่มเติมสำหรับพนักงาน

ความเชี่ยวชาญ

ผู้ให้บริการคลังสินค้าออนไลน์ มีความรู้เฉพาะทางในด้านการจัดส่ง รวมถึงการปฏิบัติตามกฎระเบียบ ศุลกากร กฎหมายระหว่างประเทศ ฯลฯ ความรู้เฉพาะทางนี้ลดความเสี่ยงจากปัญหาในการดำเนินงาน

รูปแบบการเสียค่าใช้จ่ายคงที่ การลงทุนเริ่มต้นสูงและค่าใช้จ่ายคงที่ต่อเนื่องไม่ว่าจำนวนคำสั่งซื้อจะเท่าไหร่

ค่าใช้จ่าย

จ่ายเฉพาะจำนวนออเดอร์ที่เกิดขึ้นจริง เจ้าของธุรกิจสามารถควบคุมและคาดการณ์ค่าใช้จ่ายได้ดี

การนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้กับธุรกิจนั้นต้องมีความเชียวชาญในด้านนั้นๆ หากใช้ไม่ถูกต้องหรือไม่ตอบโจทย์อาจจะทำให้เสียทั้งเวลาและค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม

เทคโนโลยี

การเข้าถึงเทคโนโลยีการจัดส่งและซอฟต์แวร์ที่ทันสมัยมักจะรวมอยู่ในบริการของคลังสินค้า ซึ่งความเชี่ยวชาญจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและความพึงพอใจของลูกค้า

ธุรกิจต้องรับผิดชอบความเสี่ยงดำเนินงานทั้งหมด ซึ่งสามารถนำไปสู่ค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นส่งผลในเรื่องของต้นทุนการจัดการและความพึงพอใจของลูกค้า

การจัดการ
ความเสี่ยง

ความเสี่ยงเช่นการเสียหายของอุปกรณ์หรือปัญหาเกี่ยวกับผู้ให้บริการคลังสินค้า โดยทางคลังสินค้าเป็นผู้รับผิดชอบเอง

การลงทุน

การลงทุนเริ่มต้นที่สูงในพื้นที่คลังสินค้า,อุปกรณ์และเทคโนโลยี รวมถึงค่าซ่อมแซมและการอัปเกรดของอุปกรณ์ต่างๆ

การลงทุนเริ่มแรกน้อย เนื่องจากธุรกิจไม่จำเป็นต้องซื้อหรือเช่าคลังสินค้า ไม่ต้องลงทุนเรื่องอุปกรณ์หรือระบบเทคโนโลยีต่างๆ ผู้ให้บริการ รับผิดชอบค่าใช้จ่ายเหล่านี้

ความยืดหยุ่นในการขยาย

การปรับเปลี่ยนพื้นที่คลังสินค้าเพื่อรองรับออเดอร์จำนวนเยอะอาจจะทำได้ยากและอาจจะต้องลงทุนเพิ่ม หรือในช่วงที่มีออเดอร์น้อยอาจทำให้การใช้ทรัพยากรไม่คุ้มค่า เช่น คนแพ็กสินค้า,พื้นที่จัดเก็บ

]มีความยืดหยุ่นสูงสามารถปรับเปลี่ยนขยายขึ้นหรือลงได้ตามความต้องการ โดยเฉพาะช่วงแคมเปญใหญ่ Double Day ที่ออเดอร์จำนวนเยอะ

ประสิทธิภาพการดำเนินงาน

ไม่มีระบบการจัดการคลังสินค้าที่มีประสิทธิภาพอาจจะทำให้มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมรวมถึงยังส่งผลต่อความพึงพอใจของลูกค้าได้

ผู้ให้บริการคลังสินค้าออนไลน์มีระบบการจัดการที่ออกแบบมาการใช้งานมาได้อย่างครอบคลุมทั้งในส่วนของระบบการจัดการออเดอร์และระบบการจัดการคลังสินค้า ระบบที่ดีและมีประสิทธิภาพส่งผลให้เกิดความรวดเร็วและถูกต้อง ทำลูกค้าเกิดความพึงพอใจด้วยเช่นกัน

การจัดส่งระหว่างประเทศ

การส่งสินค้าระหว่างประเทศอาจมีความซับซ้อนและมีเรทราคาสูง ต้องจัดการกับศุลกากร,ภาษี ด้วยตัวเอง ซึ่งอาจทำให้การดำเนินการล่าช้าและมีค่าใช้จ่ายที่สูง

ผู้ให้บริการคลังสินค้าออนไลน์ขนาดใหญ่มักจะมีเครือข่ายทั่วโลก ซึ่งทำให้การส่งสินค้าระหว่างประเทศง่ายและคุ้มค่ามากขึ้น อีกทั้งขั้นตอนในการประสานงานรวดเร็วอีกด้วย

ความเชี่ยวชาญ

เจ้าของธุรกิจอาจขาดความรู้เฉพาะทาง ซึ่งนำไปสู่ความล่าช้าการดำเนินงาน หรือปัญหาอื่น ๆ อาจต้องมีการฝึกอบรมเพิ่มเติมสำหรับพนักงาน

ผู้ให้บริการคลังสินค้าออนไลน์ มีความรู้เฉพาะทางในด้านการจัดส่ง รวมถึงการปฏิบัติตามกฎระเบียบ ศุลกากร กฎหมายระหว่างประเทศ ฯลฯ ความรู้เฉพาะทางนี้ลดความเสี่ยงจากปัญหาในการดำเนินงาน

ค่าใช้จ่าย

รูปแบบการเสียค่าใช้จ่ายคงที่ การลงทุนเริ่มต้นสูงและค่าใช้จ่ายคงที่ต่อเนื่องไม่ว่าจำนวนคำสั่งซื้อจะเท่าไหร่

จ่ายเฉพาะจำนวนออเดอร์ที่เกิดขึ้นจริง เจ้าของธุรกิจสามารถควบคุมและคาดการณ์ค่าใช้จ่ายได้ดี

เทคโนโลยี

การนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้กับธุรกิจนั้นต้องมีความเชียวชาญในด้านนั้นๆ หากใช้ไม่ถูกต้องหรือไม่ตอบโจทย์อาจจะทำให้เสียทั้งเวลาและค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม

การเข้าถึงเทคโนโลยีการจัดส่งและซอฟต์แวร์ที่ทันสมัยมักจะรวมอยู่ในบริการของคลังสินค้า ซึ่งความเชี่ยวชาญจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและความพึงพอใจของลูกค้า

การจัดการ
ความเสี่ยง

ธุรกิจต้องรับผิดชอบความเสี่ยงดำเนินงานทั้งหมด ซึ่งสามารถนำไปสู่ค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นส่งผลในเรื่องของต้นทุนการจัดการและความพึงพอใจของลูกค้า

ความเสี่ยงเช่นการเสียหายของอุปกรณ์หรือปัญหาเกี่ยวกับผู้ให้บริการคลังสินค้า โดยทางคลังสินค้าเป็นผู้รับผิดชอบเอง

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ Self-Fulfillment vs Outsourced Fulfillment

  • การมีพาร์ทเนอร์ที่ช่วยจัดการเรื่องหลังบ้านให้จะช่วยให้เจ้าของธุรกิจมีเวลาได้ทำสิ่งที่สำคัญกว่าไม่ว่าจะเป็นการทำการตลาดเพื่อเพิ่มยอดขาย หรือ การให้เวลาไปกับการพัฒนาสินค้าใหม่ๆเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า
  • มีเทคโทคโนโลยีที่ทันสมัยและทีมงานมืออาชีพช่วยจัดการเรื่องออเดอร์ 
  • ลดต้นทุนการดำเนินการต่างๆเนื่องจากคลังสินค้าขนาดใหญ่จะมีค่าการดำเนินการในเรทราคาพิเศษ

  • ค่าเช่าพื้นที่เก็บสินค้า
  • ค่าจัดการออเดอร์ เช่น ค่าอุปกรณ์การแพ็ก,ค่าส่งสินค้า(เรทราคาพิเศษ)
  • การจ้างพนักงาน 
  • ค่าระบบดำเนินการ

การเลือกใช้บริการ MyCloud Fulfillment คลังสินค้าออนไลน์ที่มีระบบการจัดการที่ครบวงจร,ทันสมัย และมีทีมงานมืออาชีพที่สามารถช่วยจัดการเรื่องหลังบ้านการขายไลน์ได้อย่างเชี่ยวชาญ เช่น การจัดการออเดอร์ที่เร็วและถูกต้องจะช่วยให้ลูกค้าปลายทางเกิดความประทับใจในการสั่งซื้อ จดจำแบรนด์ในภาพลักษณ์ที่ดี เกิดการซื้อสินค้าซ้ำและบอกต่อ ทำให้แบรนด์สามารถเติบโตได้ระยะยาว